

โดยปกติแล้วสิ่งที่ควรจะต้องคำนึงถึงเป็นอันดับต้นๆในการสื่อโฆษณา Facebook นั่นก็คือการควบคุมงบประมาณ เพราะการซื้อโฆษณาบน Facebook เพื่อทำ Online Marketing ย่อมมีค่าใช้จ่ายที่แลกเปลี่ยนกับการที่ทำให้มีผู้พบเห็นแบรนด์เรามากขึ้น โดยงบประมาณที่ตั้งไว้สำหรับการซื้อโฆษณาบน Facebook นั้น เป็นสิ่งที่ประเมินค่าได้ยาก เพราะมีปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวัตถุประสงค์ในการทำโฆษณา เนื้อหา และส่วนประกอบของบทความ ซึ่งจำเป็นจะต้องดูข้อมูล เพื่อนำมาวิเคราะห์เสมอว่าวิธีไหนเวิร์ค หรือไม่เวิร์ค สำหรับการทำการตลาด และปรับเปลี่ยนเพื่อให้ได้ผลที่ดียิ่งขึ้นโดยต้องใช้ประสบการณ์ และความชำนาญจึงจะสามารถกำหนดงบประมาณที่ต้องการใช้ และได้รับผลตอบรับที่ดีตามที่ต้องการ วันนี้เราจึงอยากจะมาเสนอแนวทางในการลงโฆษณาบน Facebook อย่างไรให้ประหยัด ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ทุกๆ ธุรกิจอย่างแน่นอนครับ ถ้าพร้อมแล้วไปชมพร้อมๆ กันเลย
ทดลองเลือกลงโฆษณาในทุก Placement
สามารถทดลองลงโฆษณาในทุกๆ Placement และรอจนกว่าระบบจะทำงานสักพัก หลังจากนั้นรอดูว่าผลตอบรับเป็นอย่างไร และเก็บข้อมูลว่าโฆษณาถูกเข้าถึงจากช่องทางใดมากที่สุด และรองลงมา ซึ่งการทำแบบนี้จะสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และนำมาพัฒนาการวางแผน Online Marketing ต่อไปได้ โดยจะสามารถตัด Placement ที่ได้รับผลลัพธ์น้อยกว่า ซึ่งสามารถตีได้ว่าไม่มีประสิทธิภาพมากพอนั่นเอง
ศึกษาการใช้ Bid Strategy ประกอบกับ Target Cost
การลงโฆษณา Facebook จะมีวิธีการบิดให้เลือกด้วยการ 4 แบบ และแต่ละแบบจะใช้สำหรับจุดมุ่งหมาย หรือ Objective ที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละแบบ ดังนั้นถ้าอยากจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และประหยัดต้นทุนในการโฆษณา ก็ควรจะเลือกวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ให้เหมาะสมกับรูปแบบสินค้าบริการและแผน Online Marketing นอกจากนั้นยังต้องเลือกรูปแบบที่อยู่ในราคาที่คุ้มค่า และไม่ไปตัดโอกาสการเข้าถึงของลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมายของเรา
วางตารางลำดับการซื้อโฆษณา Facebook หรือ Ads Schedule
ในการทำ Online Marketing ทุกกระบวนการควรจะต้องมีการวางแผนที่มีประสิทธิภาพ และชัดเจน ซึ่งสามารถนำมาใช้กับโฆษณาทาง Facebook ได้เช่นกัน โดยที่ตั้งค่าโฆษณา Facebook ให้แสดงในช่วงเวลาที่ได้ทำการวิเคราะห์มาแล้ว ว่าจะได้ผลลัพธ์ดี มีประสิทธิภาพต่อกลุ่มเป้าหมาย และลูกค้า ซึ่งนั่นจะทำให้ช่วยประหยัดต้นทุน โดยที่ไม่ต้องโฆษณาในระยะเวลาที่นอกเหนือจากเวลาที่เรากำหนด และยังช่วยให้ Content ของเราไปสู่กลุ่มเป้าหมายได้อย่างดีที่สุด โดย Platform Online แต่ละ Platform ก็จะมีทริคที่แตกต่างกัน และกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน ซึ่งใช้งานบน Facebook คนละช่วงเวลา การศึกษาช่วงเวลาที่กลุ่มเป้าหมายของเราใช้งานมากที่สุดนั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับนักการตลาดออนไลน์ที่ต้องการใช้วิธีซื้อโฆษณา Facebook เป็นอย่างมาก
การเลือกเจาะจงกลุ่มเป้าหมายของเรา
กำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการให้เห็นโฆษณาบน Facebook ได้ ดังนั้นการตั้งค่านี้จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะถ้าไม่ตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายเอาไว้โฆษณา Facebook จะไปถึงคนในหมู่กว้างมากเกินไป ซึ่งอาจจะไม่ใช่ผู้ที่ต้องการสินค้า และบริการของเรา ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องศึกษา และหาข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายให้ดีเสียก่อน จากนั้นทำการกำหนดรายละเอียดของกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ ความสนใจ สถานที่พักอาศัย จนไปถึงภาษาของกลุ่มลูกค้า ซึ่งยิ่งตั้งค่าได้ใกล้เคียงกับกลุ่มเป้าหมายของเรามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะทำให้การซื้อโฆษณา Facebook มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าตั้งข้อมูลกลุ่มเป้าหมายที่ละเอียดเกินไป อาจจะทำให้มีผู้เห็นโฆษณาของเราน้อยลง แล้วจะทำให้กลุ่มเป้าหมายเหล่านั้นเห็นโฆษณาบ่อยเกินไป อาจทำให้รู้สึกเบื่อ และมีความคิดในทางลบกับแบรนด์ได้ เพราะฉะนั้นควรจะต้องมีประสบการณ์ และความรู้เพื่อที่จะปรับตัวเลือกต่างๆ ของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเหมาะสมที่สุด
และทั้ง 4 ข้อนี้ก็เป็นจุดที่จำเป็นจะต้องสนใจ และสามารถนำไปพัฒนาปรับปรุงการทำการตลาดด้วยการซื้อโฆษณา Facebook ได้ให้เหมาะสมกับแผนการตลาดออนไลน์ และแบรนด์มากที่สุด เพื่อให้การซื้อโฆษณา Facebook นั้นใช้งบประมาณน้อยที่สุด แต่ได้รับประสิทธิภาพสูงที่สุดนั่นเองครับ