ติดต่อเรา

บริษัท นิวโฟลเดอร์888 จำกัด 159/229 หมู่ 6 หมู่บ้านสัมมากร อเวนิว ชัยพฤกษ์-วงแหวน ตำบล ลำโพ อำเภอ บางบัวทอง จังหวัด นนทบุรี 11110

090-916-9993 hello@newfolder.co.th
ติดตามเรา
136

ทำไมโฆษณา Google ไม่ได้ผล? เทคนิคปรับ Landing Page ให้เพิ่มคอนเวอร์ชั่นทันที

คุณเคยปรับแก้โฆษณา Google Ads มาครบทุกทางแล้วหรือไม่? ทั้งปรับคีย์เวิร์ด เพิ่มงบประมาณ หรือแก้ไขข้อความโฆษณาให้น่าสนใจ แต่ทำไมโฆษณายังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นสักที สิ่งสำคัญที่คุณอาจมองข้ามไปก็คือ Landing Page หรือหน้าเว็บไซต์ที่ผู้ใช้งานจะเข้ามาหลังจากคลิกโฆษณาของคุณนั่นเอง การปรับแต่ง Landing Page ให้เหมาะสมเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาและอัตราการเปลี่ยนผู้เข้าชมให้กลายเป็นลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Landing Page คืออะไรและทำไมจึงสำคัญต่อการโฆษณา?

Landing Page คือหน้าเว็บแบบ Standalone ที่สร้างขึ้นสำหรับแคมเปญการตลาดหรือแคมเปญโฆษณาโดยเฉพาะ เป็นหน้าเว็บไซต์ที่เราต้องการให้ผู้ใช้ไปถึงเมื่อพวกเขาคลิกลิงก์จากอีเมลหรือโฆษณาออนไลน์ต่างๆ Landing Page มีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำโฆษณา Google Ads เพราะทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมระหว่างความสนใจของลูกค้ากับการเปลี่ยนให้เกิดการคอนเวอร์ชั่น

วิจัยพบว่า 53% ของผู้เข้าชมเว็บไซต์จะกดออกทันทีหากหน้าเว็บโหลดนานเกิน 3 วินาที ส่งผลให้คุณสูญเสียลูกค้าไปโดยไม่จำเป็น นอกจากนี้ ค่าคอนเวอร์ชั่นเฉลี่ยควรอยู่ระหว่าง 3-5% ยิ่งค่าสูงก็ยิ่งดี หากต่ำกว่านี้แสดงว่า Landing Page อาจมีปัญหาที่ต้องปรับปรุง

2

ความแตกต่างระหว่าง Landing Page กับหน้าเว็บไซต์ทั่วไป

Landing Page และหน้าเว็บไซต์ทั่วไปมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในด้านวัตถุประสงค์และการออกแบบ วัตถุประสงค์หลักของ Landing Page คือการให้ผู้เข้าชมทำกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งเพียงอย่างเดียวเท่านั้น จึงมักมี Call To Action (CTA) เพียงหนึ่งเดียวที่โดดเด่น เช่น Landing Page โปรโมชั่นลดราคา 20% ที่มีเพียงปุ่ม “ซื้อเลย” ปุ่มเดียวที่เด่นชัด เพราะต้องการให้คนเข้ามาซื้อสินค้านั้นเท่านั้น

ในขณะที่หน้าโฮมเพจหรือหน้าเว็บไซต์ทั่วไปจะมีจุดประสงค์ที่หลากหลาย เน้นให้ผู้ใช้สำรวจหน้าเว็บ และหากพบสิ่งที่สนใจก็สามารถคลิกไปยังหน้าอื่นๆ ได้ การมีลิงก์น้อยบน Landing Page จะช่วยให้เกิดคอนเวอร์ชั่นมากขึ้น เพราะไม่ทำให้ผู้ใช้เบี่ยงเบนความสนใจไปที่อื่น

7 เทคนิคปรับแต่ง Landing Page ให้เพิ่มคอนเวอร์ชั่นโฆษณา Google

1. ตรวจสอบความสอดคล้องระหว่างโฆษณากับ Landing Page

คุณเคยคลิกโฆษณาที่น่าสนใจแต่พบว่าหน้าเว็บที่เปิดไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่โฆษณาบอกไว้หรือไม่? นี่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ลูกค้าหงุดหงิดและกดปิดหน้าเว็บไซต์ทันที ทำให้คุณเสียโอกาสในการได้ลูกค้า การเลือก Landing Page ที่เกี่ยวข้องกับข้อความโฆษณาและคีย์เวิร์ดจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก

ยิ่งเนื้อหามีความเกี่ยวข้องโดยตรงมากเท่าไหร่ โอกาสในการได้รับคอนเวอร์ชั่นก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ตัวอย่างเช่น หากโฆษณาระบุว่า “กระเป๋าหนังลดราคา 20%” ลูกค้าที่คลิกเข้ามาต้องเห็นกระเป๋าหนังพร้อมโปรโมชั่นดังกล่าวทันที ไม่ใช่ต้องไปค้นหาสินค้าในหน้าอื่น

นอกจากนี้ Landing Page ยังต้องสอดคล้องกับ Call to Action ในโฆษณาด้วย เช่น ถ้าข้อความโฆษณาชวนให้ลงชื่อทดลองใช้ฟรี หน้าเว็บต้องแสดงแบบฟอร์มให้ชัดเจนและอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม

2. ปรับปรุงความเร็วและทำให้รองรับการใช้งานบนมือถือ

ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของ Landing Page การวิจัยพบว่า 53% ของผู้เข้าชมเว็บไซต์จะกดออกทันทีหากโหลดนานเกิน 3 วินาที และการลดความเร็วในการโหลดบนมือถือเพียง 1 วินาทีอาจทำให้คอนเวอร์ชั่นลดลงถึง 20%

เพื่อให้ Landing Page โหลดได้เร็วขึ้น คุณควรพิจารณาการใช้รูปภาพหรือวิดีโออย่างรอบคอบ ลดขนาดไฟล์รูปโดยใช้ไฟล์รูปแบบ .webp จำกัดการใช้ Pixel หรือ Tracking Code ที่มากเกินไป ซึ่งอาจเพิ่มน้ำหนักให้หน้าเว็บของคุณ

นอกจากนี้ การทำให้ Landing Page รองรับการใช้งานบนมือถือก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากผู้ใช้จำนวนมากเข้าชมเว็บไซต์ผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ออกแบบหน้าเว็บให้แสดงข้อความสำคัญทันทีที่เปิด พร้อมปุ่ม CTA ที่มองเห็นชัดเจน และหลีกเลี่ยงการแสดงข้อมูลที่ต้องเลื่อนมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้รู้สึกเบื่อและออกจากหน้าเว็บ

3. ใส่ Call to Action ที่ชัดเจน

Call to Action (CTA) ที่ชัดเจนเป็นองค์ประกอบสำคัญของ Landing Page ที่มีประสิทธิภาพ ตรวจสอบว่าเว็บของคุณมีช่องทางให้ลูกค้าติดต่อได้สะดวกและชัดเจนหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นเบอร์โทรศัพท์ แบบฟอร์มติดต่อ หรือปุ่มแชทที่อยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นได้ง่าย

ไม่ควรทำให้หน้าเว็บดูรกด้วยโฆษณาแทรกหรือป๊อปอัพที่มากเกินไป เพราะจะทำให้ผู้ใช้สับสนและไม่แน่ใจว่าควรทำอะไรต่อ มีการวิจัยพบว่า CTA ที่ฝังอยู่ในเนื้อหาสามารถเพิ่มคอนเวอร์ชั่นได้ถึง 121% โดย CTA เหล่านี้มักจะออกแบบให้โดดเด่นด้วยการขีดเส้นใต้หรือใช้สีที่แตกต่างจากเนื้อหาส่วนอื่น

4

4. สร้างเนื้อหาที่ตอบโจทย์และโดดเด่น

เนื้อหาบน Landing Page ควรมีความน่าสนใจ มีประโยชน์ และไม่ซ้ำใคร ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลผลิตภัณฑ์ บริการ หรือลักษณะของธุรกิจ คุณสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือด้วยการใส่รีวิวหรือคำรับรองจากผู้ใช้จริง เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจและตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

หัวข้อของ Landing Page ควรมีความน่าสนใจและดึงดูดความสนใจ เพราะจะเป็นสิ่งแรกที่ผู้ใช้เห็นบนหน้าผลการค้นหา การสร้างหัวข้อที่ตรงประเด็นและน่าสนใจจะช่วยเพิ่มอัตราการคลิกและโอกาสในการเปลี่ยนผู้เข้าชมให้เป็นลูกค้า

สิ่งที่ดึงดูดใจผู้บริโภคมากที่สุดคือโปรโมชั่น หากสินค้าของคุณกำลังจัดโปรโมชั่น ควรนำเสนอให้เห็นอย่างชัดเจน ซึ่งจะช่วยส่งผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าและทำให้คุณมีความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง

5. ออกแบบให้ใช้งานง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้

การออกแบบ Landing Page ให้ใช้งานง่ายเป็นสิ่งสำคัญมาก ผู้เข้าชมควรสามารถดำเนินการตามที่คุณต้องการได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการสั่งซื้อสินค้า การโทรติดต่อ หรือการส่งข้อความแชท

ข้อความบนหน้าเว็บควรมีความชัดเจน กระชับ และได้ใจความ ไม่ควรยาวเกินไปจนทำให้ผู้อ่านรู้สึกเบื่อ การเขียนในลักษณะที่เป็นกันเองและอ่านง่ายจะช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจข้อมูลได้ดียิ่งขึ้น

การแบ่งเนื้อหาด้วยหัวข้อย่อย จุดสรุปแบบบุลเล็ต และการใช้ภาพประกอบที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้หน้าเว็บอ่านง่ายขึ้น ควรใช้ระดับการอ่านที่เข้าใจง่าย (ประมาณระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6-9) เพื่อไม่ให้ผู้อ่านต้องพยายามทำความเข้าใจเนื้อหามากเกินไป

6. สร้างความน่าเชื่อถือให้กับหน้าเว็บ

การสร้างความน่าเชื่อถือเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจและตัดสินใจทำตาม Call to Action ที่คุณต้องการ คุณสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือได้ด้วยการใส่รีวิวจากลูกค้าจริง คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ หรือแม้แต่การอ้างอิงถึงความสำเร็จที่ผ่านมาของสินค้าหรือบริการ

การแสดงเครื่องหมายรับรองความปลอดภัย รางวัล หรือการเป็นพันธมิตรกับองค์กรที่มีชื่อเสียงก็สามารถช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือได้เช่นกัน Landing Page ที่มีองค์ประกอบสร้างความเชื่อมั่นเหล่านี้จะมีอัตราการคอนเวอร์ชั่นที่สูงขึ้น

การมีเนื้อหาที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน ไม่มีข้อผิดพลาดด้านไวยากรณ์หรือการสะกดคำ ก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับหน้าเว็บของคุณ

7. ทดสอบและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

การทดสอบ A/B (A/B Testing) เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนา Landing Page ให้ดียิ่งขึ้น การทดสอบเปรียบเทียบองค์ประกอบต่างๆ บนหน้าเว็บ เช่น สีของปุ่ม CTA รูปแบบหัวข้อ การจัดวางรูปภาพ หรือแม้แต่ข้อความในเนื้อหา จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าอะไรทำงานได้ดีที่สุดสำหรับกลุ่มเป้าหมายของคุณ

การทำ A/B Testing อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณปรับปรุงประสิทธิภาพของ Landing Page ได้อย่างต่อเนื่อง เช่น การทดลองเปลี่ยนสีของปุ่ม CTA หรือการปรับเปลี่ยนตำแหน่งของแบบฟอร์ม ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้สามารถส่งผลต่ออัตราการคอนเวอร์ชั่นได้มาก

Business Analysis Landing Page Design With Analysts Maintaining Website On Blue Background

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการออกแบบ Landing Page

นอกจากเทคนิคการปรับปรุง Landing Page แล้ว การรู้และหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่พบบ่อยก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน:

  1. ขาดความสอดคล้องระหว่างโฆษณาและ Landing Page ทำให้ผู้ใช้รู้สึกหลอกลวงและออกจากหน้าเว็บทันที
  2. มี Call to Action หลายอย่างที่ทำให้ผู้ใช้สับสนว่าควรทำอะไรต่อไป
  3. หน้าเว็บโหลดช้า ทำให้ผู้ใช้ไม่รอและเลือกที่จะออกจากหน้าเว็บ
  4. ไม่รองรับการใช้งานบนมือถือ ทำให้สูญเสียลูกค้าที่ใช้สมาร์ทโฟน
  5. มีการออกแบบที่ไม่น่าสนใจ รกรุงรัง หรือใช้งานยาก
  6. ขาดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ ทำให้ผู้ใช้ไม่มั่นใจในการตัดสินใจ
  7. ไม่มีองค์ประกอบที่สร้างความน่าเชื่อถือ เช่น รีวิวจากลูกค้าหรือรางวัลต่างๆ

วิธีวัดประสิทธิภาพของ Landing Page

การวัดประสิทธิภาพของ Landing Page เป็นขั้นตอนสำคัญในการปรับปรุงและพัฒนาเพื่อเพิ่มอัตราการคอนเวอร์ชั่น ตัวชี้วัดที่ควรติดตาม ได้แก่:

  1. อัตราการคอนเวอร์ชั่น (Conversion Rate): ค่าเฉลี่ยที่ดีควรอยู่ระหว่าง 3-5% หรือสูงกว่า
  2. อัตราการเด้ง (Bounce Rate): อัตราสูงบ่งชี้ว่า Landing Page มีปัญหา
  3. เวลาเฉลี่ยที่ใช้บนหน้า (Average Time on Page): เวลานานขึ้นอาจหมายถึงผู้ใช้สนใจเนื้อหา
  4. อัตราส่วนการดำเนินการขั้นต่อไป (Next Step Ratio): สัดส่วนของผู้ใช้ที่คลิก CTA แต่ไม่ได้ทำการคอนเวอร์ชั่นให้เสร็จสมบูรณ์
  5. ค่าใช้จ่ายต่อการคอนเวอร์ชั่น (Cost per Conversion): ค่าต่ำแสดงถึงประสิทธิภาพที่ดี
  6. การวิเคราะห์ Heat Map: แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้มีปฏิสัมพันธ์กับหน้าเว็บอย่างไร

สรุป: เทคนิคปรับ Landing Page ให้เพิ่มคอนเวอร์ชั่นทันที

Landing Page ที่มีประสิทธิภาพเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยให้โฆษณา Google ของคุณประสบความสำเร็จ การสร้างหน้าเว็บที่ตรงกับโฆษณา มีความเร็วในการโหลดที่ดี รองรับการใช้งานบนมือถือ มี Call to Action ที่ชัดเจน และมีเนื้อหาที่น่าสนใจจะช่วยเพิ่มอัตราการคอนเวอร์ชั่นอย่างมีนัยสำคัญ

การวิเคราะห์และปรับปรุง Landing Page อย่างต่อเนื่องตามผลการทดสอบและข้อมูลจากเครื่องมือวิเคราะห์ต่างๆ จะช่วยให้คุณสามารถพัฒนาหน้าเว็บให้ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น

หากคุณประสบปัญหากับโฆษณา Google ที่ไม่ได้ผลตามที่คาดหวัง อย่าลืมกลับมาพิจารณาและปรับปรุง Landing Page ด้วยเทคนิคที่แนะนำไว้ข้างต้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและทำให้การลงทุนในโฆษณามีความคุ้มค่ามากขึ้น

#Google_Ads #Landing_Page #การตลาดออนไลน์ #คอนเวอร์ชั่น #โฆษณาออนไลน์ #ประสิทธิภาพเว็บไซต์ #SEO #UX_UI #มือถือ #Call_to_Action

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • ประวัติการเข้าชมเว็บไซต์และโฆษณา

    ยินยอนให้มีการเก็บประวัติการเข้าชมเว็บไซต์

บันทึกการตั้งค่า