ติดต่อเรา

บริษัท นิวโฟลเดอร์888 จำกัด 159/229 หมู่ 6 หมู่บ้านสัมมากร อเวนิว ชัยพฤกษ์-วงแหวน ตำบล ลำโพ อำเภอ บางบัวทอง จังหวัด นนทบุรี 11110

090-916-9993 hello@newfolder.co.th
ติดตามเรา
110

ผู้บริโภคเชื่อถือการรีวิวของอินฟลูเอนเซอร์จริงหรือไม่? เปิดผลสำรวจความเชื่อมั่นที่มีต่อโฆษณาออนไลน์

ในยุคดิจิทัลที่การตลาดเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อินฟลูเอนเซอร์กลายเป็นกลยุทธ์ที่หลายธุรกิจเลือกใช้เพื่อส่งเสริมสินค้าและบริการ แต่คำถามสำคัญคือ ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นต่อการรีวิวสินค้าจากอินฟลูเอนเซอร์มากน้อยเพียงใด? บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจผลวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับความเชื่อมั่นที่ผู้บริโภคมีต่อโฆษณาสินค้าผ่านอินฟลูเอนเซอร์ พร้อมวิเคราะห์ว่าอะไรคือปัจจัยที่ทำให้อินฟลูเอนเซอร์น่าเชื่อถือในสายตาผู้บริโภค

การตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์มีอิทธิพลต่อผู้บริโภคอย่างไร

ในยุคที่โซเชียลมีเดียเติบโตอย่างรวดเร็ว การตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์กลายเป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากธุรกิจต่างๆ การใช้บุคคลที่มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์มาช่วยในการโปรโมทสินค้าและบริการไม่เพียงแต่ช่วยในการสร้างการรับรู้แบรนด์ แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคอีกด้วย ในการศึกษาล่าสุดพบว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่มักมองว่าคำแนะนำจากอินฟลูเอนเซอร์เป็นคำแนะนำจากคนที่พวกเขาไว้ใจ คล้ายกับการแนะนำจากเพื่อนหรือคนใกล้ชิด ซึ่งเพิ่มความเชื่อมั่นและเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจซื้อได้มากขึ้น

อินฟลูเอนเซอร์มีความสามารถในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุดผ่านเนื้อหาที่น่าสนใจและเข้าถึงง่าย ไม่ว่าจะเป็นการสาธิตวิธีการใช้สินค้า การรีวิวประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ หรือการแชร์ประสบการณ์การใช้งานจริง ซึ่งสามารถตอบข้อสงสัยและสร้างแรงจูงใจให้กับผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ การใช้โค้ดส่วนลดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ยังเป็นเทคนิคที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อในช่วงเวลาสั้นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย

จากข้อมูลของ InfluencerMarketingHub พบว่า 67% ของธุรกิจเลือกใช้ Instagram เป็นแพลตฟอร์มหลักในการทำการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ ตามมาด้วย TikTok ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีธุรกิจถึง 45% ที่เลือกใช้แพลตฟอร์มนี้สำหรับแคมเปญการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์

2

เปิดผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่ออินฟลูเอนเซอร์

จากผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพลที่ทำการสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “ใครจะคุ้มครองผู้บริโภค” ได้เผยข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อการโฆษณาสินค้าของอินฟลูเอนเซอร์ ผลการสำรวจระหว่างวันที่ 15-16 ตุลาคม 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง ได้ข้อมูลที่น่าสนใจ

ผลสำรวจระบุว่า กลุ่มตัวอย่างมากถึง 42.21% บอกว่าการโฆษณาสินค้าของอินฟลูเอนเซอร์ไม่ส่งผลใดๆ ต่อการตัดสินใจซื้อ ในขณะที่ 22.98% ระบุว่าส่งผลมาก 19.01% ระบุว่าค่อนข้างส่งผล และ 15.80% ระบุว่าไม่ค่อยส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อ ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า มีผู้บริโภคเพียงราว 42% เท่านั้น (รวมกลุ่มที่ตอบว่าส่งผลมากและค่อนข้างส่งผล) ที่ยอมรับว่าอินฟลูเอนเซอร์มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของพวกเขา

ที่น่าสนใจยิ่งไปกว่านั้นคือ เมื่อถามถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อการใช้สินค้าจริงของอินฟลูเอนเซอร์ ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่า มากกว่าครึ่งของกลุ่มตัวอย่าง (52.29%) ไม่เชื่อว่าอินฟลูเอนเซอร์ใช้สินค้านั้นจริง ในขณะที่ 22.98% เชื่อว่าใช้สินค้านั้นเป็นบางครั้ง 20.53% เชื่อว่าใช้สินค้าเฉพาะตอนโฆษณา และมีเพียง 3.89% เท่านั้นที่เชื่อว่าอินฟลูเอนเซอร์ใช้สินค้านั้นจริง

ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายอย่างมากในการสร้างความน่าเชื่อถือผ่านการตลาดด้วยอินฟลูเอนเซอร์ในปัจจุบัน และเป็นสิ่งที่ธุรกิจต่างๆ ควรคำนึงถึงเมื่อวางแผนกลยุทธ์การตลาดออนไลน์

3

ทำไมผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าอินฟลูเอนเซอร์ใช้สินค้าจริง

จากผลสำรวจที่พบว่ามากกว่าครึ่งของผู้บริโภคไม่เชื่อว่าอินฟลูเอนเซอร์ใช้สินค้าที่รีวิวจริง มีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นดังกล่าว การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคช่วยให้เราเข้าใจถึงสาเหตุของความไม่เชื่อมั่นนี้ได้ดียิ่งขึ้น

ประการแรก คือการที่ผู้บริโภคเริ่มตระหนักถึงความเป็นจริงที่ว่า อินฟลูเอนเซอร์ได้รับค่าตอบแทนจากการรีวิวสินค้า ทำให้เกิดความสงสัยในความจริงใจของการรีวิว หลายคนมองว่าการรีวิวในเชิงบวกอาจเกิดจากแรงจูงใจทางการเงินมากกว่าคุณภาพจริงของสินค้า ความสงสัยนี้ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเมื่อการรีวิวมักจะมีแต่ด้านบวกโดยไม่กล่าวถึงข้อเสียของสินค้าเลย

ประการที่สอง ผู้บริโภคมักพบเห็นอินฟลูเอนเซอร์รีวิวสินค้าหลากหลายประเภทในระยะเวลาใกล้เคียงกัน บางครั้งเป็นสินค้าที่แข่งขันกันในตลาดเดียวกัน ซึ่งไม่สมเหตุสมผลที่จะใช้ทั้งหมดจริง ทำให้เกิดความสงสัยในความจริงใจและความซื่อสัตย์ของอินฟลูเอนเซอร์ ปรากฏการณ์นี้ทำให้ผู้บริโภคมองว่าอินฟลูเอนเซอร์เหล่านี้รีวิวสินค้าเพียงเพื่อรายได้ ไม่ได้ใช้สินค้านั้นจริงๆ

ประการที่สาม คือการที่บางครั้งคำรีวิวจากอินฟลูเอนเซอร์ดูเหมือนถูกกำหนดโดยแบรนด์ ใช้ภาษาที่ดูเป็นทางการและไม่เป็นธรรมชาติ หรือมีการกล่าวถึงจุดเด่นของสินค้าในแบบเดียวกันหมด ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าการรีวิวนั้นไม่ได้มาจากประสบการณ์จริง แต่เป็นสคริปต์ที่ถูกเตรียมไว้ล่วงหน้า ซึ่งลดทอนความน่าเชื่อถือลงอย่างมาก

นอกจากนี้ ในบางกรณีมีการเปิดเผยข่าวเกี่ยวกับอินฟลูเอนเซอร์ที่รีวิวสินค้าโดยไม่ได้ทดลองใช้จริง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในภาพรวม การสร้างความน่าเชื่อถือจึงเป็นความท้าทายสำคัญสำหรับทั้งอินฟลูเอนเซอร์และธุรกิจที่ใช้กลยุทธ์การตลาดในรูปแบบนี้

4

อะไรคือปัจจัยที่ทำให้อินฟลูเอนเซอร์มีความน่าเชื่อถือ

แม้ว่าผลสำรวจจะแสดงให้เห็นถึงความท้าทายในการสร้างความน่าเชื่อถือ แต่ยังมีปัจจัยสำคัญที่สามารถช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับอินฟลูเอนเซอร์ได้ การศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภคได้เผยให้เห็นถึงองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้อินฟลูเอนเซอร์ได้รับความไว้วางใจ

จากการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับอิทธิพลของอินฟลูเอนเซอร์ในสื่อโซเชียลมีเดียที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ พบว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้อินฟลูเอนเซอร์มีความน่าเชื่อถือประกอบด้วย:

  1. ความเชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ: อินฟลูเอนเซอร์ที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านจะได้รับความเชื่อถือมากกว่า เช่น ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามรีวิวเครื่องสำอาง หรือนักกีฬารีวิวอุปกรณ์กีฬา การแสดงให้เห็นถึงความรู้เชิงลึกและประสบการณ์จริงในอุตสาหกรรมนั้นๆ จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือได้อย่างมาก
  2. คุณภาพของเนื้อหา: การนำเสนอเนื้อหาที่มีคุณภาพ มีข้อมูลเชิงลึก มีการทดสอบผลิตภัณฑ์จริง และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเนื้อหาที่ให้ทั้งข้อดีและข้อควรปรับปรุงของสินค้าอย่างตรงไปตรงมา
  3. ความสม่ำเสมอในการนำเสนอ: อินฟลูเอนเซอร์ที่มีความสม่ำเสมอในการผลิตเนื้อหา และมีรูปแบบการนำเสนอที่ชัดเจนจะสร้างความน่าเชื่อถือได้มากกว่า เพราะแสดงให้เห็นถึงความจริงจังในการทำงานและความเป็นมืออาชีพ
  4. ความโปร่งใสและความจริงใจ: การเปิดเผยอย่างชัดเจนว่าเป็นการรีวิวที่ได้รับการสนับสนุนจากธุรกิจ และการกล้าที่จะพูดถึงทั้งข้อดีและข้อเสียของผลิตภัณฑ์จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือได้มาก ผู้บริโภคมักจะชื่นชมอินฟลูเอนเซอร์ที่มีความจริงใจและไม่พยายามปกปิดข้อเท็จจริง
  5. ประวัติและพฤติกรรมในอดีต: อินฟลูเอนเซอร์ที่มีประวัติในการนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องและซื่อสัตย์จะได้รับความเชื่อถือมากกว่า การสร้างประวัติที่ดีในการรีวิวสินค้าต้องใช้เวลา แต่จะเป็นรากฐานสำคัญของความน่าเชื่อถือในระยะยาว

นอกจากนี้ งานวิจัยยังพบว่า การมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ติดตาม การตอบคำถามและความคิดเห็นอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการแสดงให้เห็นการใช้งานผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องแม้จะไม่ได้เป็นการรีวิวก็เป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับอินฟลูเอนเซอร์ได้เช่นกัน

5

กลยุทธ์การเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ

การเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ประสบความสำเร็จ โดยมีกลยุทธ์สำคัญที่ธุรกิจควรพิจารณาดังนี้:

  1. เลือกตามความเกี่ยวข้องกับธุรกิจ: เลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่มีความเชี่ยวชาญหรือสร้างเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับประเภทสินค้าหรือบริการของคุณ เพื่อให้การรีวิวมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ความเชื่อมโยงที่เป็นธรรมชาติระหว่างอินฟลูเอนเซอร์และสินค้าจะทำให้การนำเสนอมีความน่าเชื่อถือมากกว่า
  2. พิจารณาจากกลุ่มผู้ติดตาม: วิเคราะห์ว่ากลุ่มผู้ติดตามของอินฟลูเอนเซอร์มีความสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจหรือไม่ ทั้งในด้านประชากรศาสตร์ ความสนใจ และพฤติกรรมการบริโภค การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ถูกต้องสำคัญกว่าการเข้าถึงคนจำนวนมาก
  3. ไม่เน้นเฉพาะจำนวนผู้ติดตาม: จากสถิติพบว่า ไมโครอินฟลูเอนเซอร์ (ผู้มีผู้ติดตาม 10,000-100,000 คน) มีอัตราการมีส่วนร่วม (Engagement Rate) สูงกว่ามาโครอินฟลูเอนเซอร์ (ผู้มีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านคน) ถึง 3 เท่า บนแพลตฟอร์ม Instagram และสูงกว่ามากถึง 18% เทียบกับ 5% บนแพลตฟอร์ม TikTok การเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่มีอัตราการมีส่วนร่วมสูงอาจให้ผลตอบแทนการลงทุนที่ดีกว่า
  4. ดูประวัติการทำงานและความน่าเชื่อถือ: ตรวจสอบผลงานที่ผ่านมา ประสิทธิภาพของแคมเปญก่อนหน้านี้ และความคิดเห็นของผู้ติดตามที่มีต่ออินฟลูเอนเซอร์ การพิจารณาการตอบสนองของผู้ติดตามต่อเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการรีวิวสินค้าจะช่วยประเมินประสิทธิภาพที่อาจเกิดขึ้นได้
  5. สร้างความสัมพันธ์ระยะยาว: แทนที่จะใช้อินฟลูเอนเซอร์หลายคนในแต่ละแคมเปญ การสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับอินฟลูเอนเซอร์จำนวนน้อยแต่มีคุณภาพสามารถสร้างความต่อเนื่องและความน่าเชื่อถือได้มากกว่า จากสถิติพบว่า 56% ของธุรกิจเลือกที่จะใช้อินฟลูเอนเซอร์คนเดิมในแคมเปญอื่นๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของกลยุทธ์นี้
  6. เลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม: แต่ละแพลตฟอร์มมีจุดแข็งและกลุ่มผู้ใช้ที่แตกต่างกัน การเลือกแพลตฟอร์มให้เหมาะกับสินค้าและกลุ่มเป้าหมายจึงมีความสำคัญ โดย Instagram และ TikTok เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ แต่ Facebook, YouTube และ LinkedIn ก็ยังเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพสำหรับกลุ่มเป้าหมายบางกลุ่ม
  7. กำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดความสำเร็จอย่างชัดเจน: ก่อนเริ่มทำงานร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ ควรกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดความสำเร็จให้ชัดเจน เช่น การเพิ่มการรับรู้แบรนด์ การเพิ่มยอดขาย หรือการเพิ่มจำนวนผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดีย การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้สามารถประเมินประสิทธิภาพของแคมเปญได้อย่างเป็นรูปธรรม

ด้วยกลยุทธ์เหล่านี้ ธุรกิจสามารถเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่เหมาะสมเพื่อสร้างแคมเปญการตลาดที่มีประสิทธิภาพ และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น

สรุป

ผลการสำรวจจากนิด้าโพลแสดงให้เห็นว่า แม้การตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์จะเป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยม แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังมีความกังวลเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของการรีวิวสินค้า โดยกว่า 50% ไม่เชื่อว่าอินฟลูเอนเซอร์ใช้สินค้าที่รีวิวจริง และมากกว่า 40% ระบุว่าการโฆษณาผ่านอินฟลูเอนเซอร์ไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของพวกเขา ข้อมูลนี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายสำคัญในการทำการตลาดรูปแบบนี้

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับอินฟลูเอนเซอร์ ได้แก่ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน คุณภาพของเนื้อหา ความโปร่งใสและความจริงใจ รวมถึงประวัติการนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องในอดีต ธุรกิจที่ต้องการใช้กลยุทธ์การตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ควรให้ความสำคัญกับการเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่มีคุณสมบัติเหล่านี้ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญ

ในท้ายที่สุด การตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ที่มีประสิทธิภาพต้องอาศัยความสมดุลระหว่างการส่งเสริมสินค้าและการรักษาความน่าเชื่อถือ อินฟลูเอนเซอร์ที่สามารถรักษาความไว้วางใจจากผู้ติดตามไว้ได้ ในขณะที่นำเสนอสินค้าอย่างจริงใจและโปร่งใส จะเป็นพันธมิตรที่มีค่าสำหรับธุรกิจในระยะยาว

#อินฟลูเอนเซอร์ #การตลาดออนไลน์ #โฆษณาสินค้า #ความน่าเชื่อถือ #ผลสำรวจ #การตัดสินใจซื้อ #กลยุทธ์การตลาด

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • ประวัติการเข้าชมเว็บไซต์และโฆษณา

    ยินยอนให้มีการเก็บประวัติการเข้าชมเว็บไซต์

บันทึกการตั้งค่า