ทำไมฟุตเตอร์เว็บไซต์สำคัญและจะออกแบบให้ดึงดูดผู้ใช้งานได้อย่างไร?

ฟุตเตอร์เว็บไซต์หรือส่วนล่างของเว็บไซต์เป็นองค์ประกอบที่ผู้เข้าชมทุกคนจะต้องเห็นเนื่องจากปรากฏในทุกหน้าของเว็บไซต์ แม้จะเป็นส่วนที่เจ้าของเว็บไซต์มักมองข้าม แต่ในความเป็นจริงแล้วส่วนล่างสุดนี้กลับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการสร้างลูกค้าใหม่ให้กับหลายธุรกิจ การออกแบบฟุตเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเว็บไซต์ธุรกิจ พร้อมทั้งเพิ่มโอกาสในการปิดการขายและส่งเสริมประสบการณ์ผู้ใช้งานที่ดี จากข้อมูลการวิจัยพบว่าการปรับปรุงฟุตเตอร์เว็บไซต์สามารถเพิ่มอัตราการแปลงเป็นลูกค้าได้มากถึง 23.77 เปอร์เซ็นต์

ฟุตเตอร์เว็บไซต์คืออะไรและทำไมจึงมีความสำคัญ?

ฟุตเตอร์เว็บไซต์หรือส่วนท้ายสุดของเว็บเพจ คือพื้นที่สำคัญที่ปรากฏอยู่ด้านล่างของทุกหน้าในเว็บไซต์ ส่วนนี้ทำหน้าที่เสมือนจุดปลายทางที่ผู้ใช้จะเจอหลังจากเลื่อนดูเนื้อหาทั้งหมดบนหน้าเว็บ แม้จะอยู่ตำแหน่งล่างสุดแต่ไม่ได้หมายความว่าไม่สำคัญ ในทางกลับกัน ฟุตเตอร์กลับมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดี

ความสำคัญของฟุตเตอร์เว็บไซต์มีหลายประการ ประการแรก ฟุตเตอร์ถือเป็นตำแหน่งยุทธศาสตร์สำคัญในการใส่จุด Call-To-Action เพื่อกระตุ้นให้ผู้เข้าชมเลือกดูเนื้อหาที่เราต้องการนำเสนอ ข้อมูลจาก Heatmap แสดงให้เห็นว่าส่วนฟุตเตอร์มีการคลิกอยู่หลายจุดโดยเฉพาะในเมนูที่เกี่ยวกับราคาและบริการ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้งานให้ความสนใจกับข้อมูลในส่วนนี้อย่างมาก

นอกจากนี้ ตามข้อมูลการวิจัยจาก ChartBeat พบว่า 66 เปอร์เซ็นต์ของการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานเกิดขึ้น “ใต้พื้นที่พับ” (below the fold) ซึ่งรวมถึงพื้นที่ฟุตเตอร์ด้วย แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้งานให้ความสำคัญกับเนื้อหาส่วนล่างของเว็บไซต์มากกว่าที่หลายคนคิด

องค์ประกอบสำคัญที่ควรมีในฟุตเตอร์เว็บไซต์

การออกแบบฟุตเตอร์ที่มีประสิทธิภาพควรประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญหลายประการ คนส่วนใหญ่มักจะใส่ข้อมูลต่อไปนี้ลงในฟุตเตอร์:

1. เมนูนำทาง: การวางเมนูหลักซ้ำในฟุตเตอร์เป็นการตอกย้ำความสำคัญและช่วยให้ผู้ใช้ที่เลื่อนมาถึงส่วนล่างสามารถเข้าถึงหน้าอื่นๆ ได้โดยไม่ต้องเลื่อนกลับขึ้นไปด้านบน ฟุตเตอร์ที่มีโครงสร้างดีจะแบ่งหมวดหมู่เมนูอย่างชัดเจนเพื่อให้ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
2. ข้อมูลการติดต่อ: ส่วนนี้มีความสำคัญมากเพราะเป็นจุดที่ลูกค้าที่สนใจมักจะมองหา ควรใส่ข้อมูลเช่น ที่อยู่ธุรกิจ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล และลิงก์โซเชียลมีเดียต่างๆ การใส่ข้อมูลติดต่อในฟุตเตอร์ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและทำให้ลูกค้าสามารถติดต่อธุรกิจได้ง่ายขึ้น
3. นโยบายและข้อกำหนด: ส่วนนี้ประกอบด้วยข้อมูลเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ นโยบายความเป็นส่วนตัว และข้อกำหนดในการใช้งานเว็บไซต์ แม้จะดูเหมือนไม่สำคัญ แต่การมีข้อมูลเหล่านี้จะช่วยสร้างความเป็นมืออาชีพและความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์
4. บทวิจารณ์หรือรางวัล: การแสดงความคิดเห็นจากลูกค้าหรือรางวัลที่ธุรกิจได้รับเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือและเป็นแรงจูงใจที่ดีทำให้ลูกค้าตัดสินใจใช้สินค้าหรือบริการ โดยเฉพาะสำหรับแบรนด์ที่ต้องการสร้างการรับรู้
5. ลิขสิทธิ์: ประกาศลิขสิทธิ์ที่มักประกอบด้วยสัญลักษณ์ © ปีที่เผยแพร่และชื่อเจ้าของลิขสิทธิ์ แม้ไม่ใช่ข้อบังคับแต่เป็นสิ่งที่ควรมีเพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์

## ฟุตเตอร์สามารถเพิ่มยอดขายและสร้างความน่าเชื่อถือได้อย่างไร?

ฟุตเตอร์ที่ออกแบบอย่างมีประสิทธิภาพสามารถส่งผลเชิงบวกต่อธุรกิจในหลายๆ ด้าน จากกรณีศึกษาของเว็บไซต์กระเป๋าหรูแห่งหนึ่งพบว่า การออกแบบฟุตเตอร์ใหม่ทำให้อัตราการแปลงเป็นยอดขายเพิ่มขึ้น 27 เปอร์เซ็นต์ และรายได้ต่อผู้เข้าชมเพิ่มขึ้น 16 เปอร์เซ็นต์ นี่แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของฟุตเตอร์ที่มีต่อพฤติกรรมการซื้อของผู้ใช้

ฟุตเตอร์ยังมีบทบาทสำคัญในการปิดการขาย โดยเฉพาะเมื่อใช้เป็นพื้นที่แสดงจุด Call-to-Action ที่ชัดเจน ผู้ใช้ที่เลื่อนมาถึงส่วนล่างของเว็บไซต์มักเป็นผู้ที่มีความสนใจในเนื้อหาและมีแนวโน้มสูงที่จะกลายเป็นลูกค้า การวาง Call-to-Action ในส่วนนี้จึงมีโอกาสสูงที่จะได้ผลตอบรับที่ดี

นอกจากนี้ ฟุตเตอร์ยังมีบทบาทสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ เมื่อผู้ใช้งานเห็นข้อมูลที่ครบถ้วนเกี่ยวกับธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่จริง เบอร์โทรศัพท์ หรือนโยบายต่างๆ จะช่วยสร้างความมั่นใจว่าธุรกิจนี้มีตัวตนและเชื่อถือได้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค

## เทคนิคการออกแบบฟุตเตอร์ให้โดดเด่นและน่าสนใจ

การออกแบบฟุตเตอร์ที่มีประสิทธิภาพไม่เพียงแต่ต้องรวมองค์ประกอบสำคัญเท่านั้น แต่ยังต้องมีความโดดเด่นและดึงดูดความสนใจ ต่อไปนี้คือเทคนิคในการออกแบบฟุตเตอร์ให้น่าสนใจ:

1. **รักษาความเรียบง่าย**: ฟุตเตอร์ควรมีโครงสร้างที่ชัดเจนและนำทางง่าย โดยเน้นที่สิ่งสำคัญเช่นหน้าหลัก ข้อมูลติดต่อ และลิงก์โซเชียลมีเดีย การจัดเรียงลิงก์ในแนวตั้งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการจัดระเบียบข้อมูลบนหน้าจอ โดยเฉพาะเมื่อมีลิงก์จำนวนมาก

2. **ใช้โทนสีที่สอดคล้องกับแบรนด์**: การใช้สีที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์จะช่วยสร้างการจดจำได้ดี เช่น การใช้สีพื้นหลังที่ตัดกับสีของเนื้อหาหลักเพื่อให้ฟุตเตอร์โดดเด่น

3. **ใช้เทคนิคการแรเงา**: บางครั้งการออกแบบที่เรียบง่ายเช่นการแรเงาไล่ระดับสีก็สามารถสร้างความหรูหราและความน่าสนใจให้กับฟุตเตอร์ได้

4. **จัดกลุ่มข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ**: แบ่งข้อมูลในฟุตเตอร์เป็นหมวดหมู่ที่ชัดเจน เช่น แยกระหว่างข้อมูลติดต่อ เมนูนำทาง และลิงก์นโยบายต่างๆ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลได้ง่ายขึ้น

5. **เพิ่มแผนที่แสดงตำแหน่ง**: แทนที่จะใส่เพียงที่อยู่ธุรกิจในรูปแบบข้อความ การแสดงแผนที่อินเตอร์แอคทีฟให้ผู้ใช้เห็นตำแหน่งที่ตั้งจริงจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความสะดวกให้ลูกค้า

6. **ใช้ฟอนต์ที่มีสไตล์**: การเลือกใช้ฟอนต์ที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์ในฟุตเตอร์สามารถสร้างความประทับใจและช่วยให้ข้อมูลอ่านง่ายขึ้น โดยเฉพาะเมื่อต้องจัดเรียงข้อมูลจำนวนมาก

รูปแบบฟุตเตอร์ที่นิยมและเหมาะกับเว็บไซต์แต่ละประเภท

มีรูปแบบฟุตเตอร์หลายแบบที่เหมาะกับเว็บไซต์ประเภทต่างๆ ต่อไปนี้คือตัวอย่างรูปแบบฟุตเตอร์ที่น่าสนใจและเหมาะกับเว็บไซต์แต่ละประเภท:

1. ฟุตเตอร์แบบมินิมอล: เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่เน้นความเรียบง่ายและสะอาดตา การออกแบบฟุตเตอร์ในลักษณะนี้จัดเรียงเนื้อหาอย่างเป็นระเบียบ แบ่งส่วนได้ดี และอ่านง่าย เหมาะกับเว็บไซต์ด้านเทคโนโลยีหรือแบรนด์ที่เน้นความทันสมัย
2. ฟุตเตอร์แบบมีโครงสร้างชัดเจน: เหมาะกับเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาจำนวนมาก เช่น เว็บไซต์องค์กรหรือเว็บไซต์การศึกษา โดยออกแบบให้ตัวอักษรเห็นเด่นชัด แต่ละเมนูหรือ Call-to-Action แบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจน และอาจมีลูกเล่นในการซ่อนเมนูย่อยไว้ที่แถบด้านล่าง
3. ฟุตเตอร์ที่เน้นแบรนด์: ใช้โทนสีตามเอกลักษณ์ของแบรนด์เพื่อสร้างการจดจำ พร้อมรายละเอียดการติดต่อที่ครบถ้วน และอาจเพิ่มวิดเจ็ตโซเชียลมีเดียเพื่อส่งเสริมการติดตามผ่านช่องทางอื่น เหมาะกับธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มหรือสินค้าไลฟ์สไตล์ต่างๆ
4. ฟุตเตอร์ที่เน้น Call-to-Action: ออกแบบโดยเน้น Call-to-Action ที่สำคัญที่สุดให้โดดเด่น เช่น ปุ่มดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน หรือปุ่มสมัครสมาชิก โดยวางไว้ตรงกลางและใช้พื้นที่มากที่สุด เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการนำเสนอบริการหลักชัดเจน
5. ฟุตเตอร์สำหรับเว็บไซต์สื่อและสำนักพิมพ์: มีวิดเจ็ตสำหรับการติดตามข่าวสารหรือสมัครสมาชิกรับจดหมายข่าว พร้อมข้อความลิขสิทธิ์เพื่อคุ้มครองเนื้อหาบนเว็บไซต์ เหมาะกับเว็บไซต์ประเภทนิตยสารออนไลน์หรือสำนักพิมพ์

วิธีการเลือกฟุตเตอร์ที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ

การเลือกรูปแบบฟุตเตอร์ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ต่อไปนี้คือแนวทางในการเลือกฟุตเตอร์ที่เหมาะสม:

1. พิจารณาประเภทธุรกิจ: ธุรกิจต่างประเภทอาจต้องการฟุตเตอร์ที่แตกต่างกัน เช่น ร้านค้าอีคอมเมิร์ซอาจต้องการฟุตเตอร์ที่แสดงตัวเลือกการชำระเงินและการจัดส่ง ในขณะที่เว็บไซต์องค์กรอาจเน้นข้อมูลติดต่อและโครงสร้างบริษัท
2. วิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้: ใช้เครื่องมือวิเคราะห์เช่น Heatmap เพื่อดูว่าผู้ใช้มีปฏิสัมพันธ์กับส่วนใดของฟุตเตอร์มากที่สุด แล้วปรับให้เหมาะสม หากไม่มีกิจกรรมในฟุตเตอร์มากนัก อาจหมายความว่าผู้เข้าชมไม่ได้เลื่อนไปถึงส่วนล่างของเว็บไซต์ หรือฟุตเตอร์ไม่มีข้อมูลที่มีค่าเพียงพอ
3. ตรวจสอบความแตกต่างระหว่างส่วนหัวและส่วนท้าย: ข้อผิดพลาดทั่วไปของการออกแบบเว็บไซต์คือการใส่ข้อมูลเหมือนกันในทั้งส่วนหัวและส่วนท้าย ควรออกแบบให้ส่วนหัวเป็นแผนที่ย่อของหน้าที่มีค่ามากที่สุดบนเว็บไซต์ ส่วนฟุตเตอร์ควรเป็น “ตาข่ายนิรภัย” สำหรับผู้ใช้ที่ประสบปัญหาในการนำทางเว็บไซต์
4. เลือกจำนวนและขนาดที่เหมาะสม: ฟุตเตอร์ขนาดใหญ่หรือ “fat footer” เป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพที่สุดในการเพิ่มการแปลงเป็นลูกค้า แต่ต้องมั่นใจว่าข้อมูลที่ใส่มีประโยชน์และไม่มากเกินไปจนทำให้ผู้ใช้สับสน
5. ใส่ใจเรื่องการตลาดและ SEO: อย่าใส่คีย์เวิร์ดมากเกินไปในฟุตเตอร์ เพราะอาจส่งผลเสียต่ออันดับในการค้นหา ควรใส่เฉพาะคีย์เวิร์ดหรือวลีที่เพิ่มคุณค่าให้กับแบรนด์หรือกระตุ้นให้ผู้เข้าชมดำเนินการ

สรุป: ฟุตเตอร์คือโอกาสทองที่ไม่ควรมองข้าม

ฟุตเตอร์เว็บไซต์เป็นพื้นที่สำคัญที่ไม่ควรมองข้าม แม้จะอยู่ส่วนล่างสุดของเว็บไซต์ แต่มีผลอย่างมากต่อการสร้างความประทับใจสุดท้ายให้กับผู้ใช้ ฟุตเตอร์ที่ออกแบบอย่างมีประสิทธิภาพสามารถเพิ่มการแปลงเป็นลูกค้าและรายได้อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนั้นยังช่วยในการนำทางเว็บไซต์ สร้างความน่าเชื่อถือ และส่งเสริมภาพลักษณ์แบรนด์

การออกแบบฟุตเตอร์ให้เหมาะสมกับประเภทธุรกิจและความต้องการของลูกค้าจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยต้องคำนึงถึงองค์ประกอบสำคัญเช่นเมนูนำทาง ข้อมูลติดต่อ และจุด Call-to-Action ที่ชัดเจน การตรวจสอบพฤติกรรมผู้ใช้อย่างสม่ำเสมอและการปรับปรุงฟุตเตอร์ให้ทันสมัยจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีความได้เปรียบในการแข่งขัน

อย่าลืมว่าฟุตเตอร์เว็บไซต์ที่ดีจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณดูเป็นมืออาชีพและน่าเชื่อถือมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน สร้างการจดจำแบรนด์ และส่งเสริมยอดขายได้อีกด้วย ดังนั้น การใส่ใจออกแบบฟุตเตอร์ที่ดีจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจออนไลน์ทุกประเภท

ฟุตเตอร์เว็บไซต์ #ออกแบบเว็บไซต์ #UXDesign #การออกแบบฟุตเตอร์ #เพิ่มยอดขายออนไลน์ #เว็บไซต์ธุรกิจ #องค์ประกอบเว็บไซต์