
อะไรคือช่องทางหารายได้จากโมบายแอปพลิเคชันที่ทำได้จริงในปี 2025?
ในยุคดิจิทัล 2025 ที่โมบายแอปพลิเคชันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน หลายคนเริ่มมองเห็นโอกาสในการสร้างรายได้ผ่านอุปกรณ์พกพาที่ใช้อยู่ทุกวัน การหารายได้จากแอปพลิเคชันไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป มีหลากหลายวิธีที่สามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ และทำรายได้จริง ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ใช้งานทั่วไปหรือนักพัฒนา บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจช่องทางการสร้างรายได้จากโมบายแอปพลิเคชันที่น่าสนใจและเหมาะกับคนยุคใหม่ที่ต้องการหารายได้เสริมหรือสร้างธุรกิจออนไลน์ของตัวเอง

5 แอปพลิเคชันยอดนิยมที่ช่วยคุณสร้างรายได้ได้ทันที
การสร้างรายได้จากโมบายแอปไม่จำเป็นต้องเริ่มจากการเป็นนักพัฒนา คุณสามารถใช้แอปพลิเคชันที่มีอยู่แล้วเพื่อสร้างรายได้เสริมได้ทันที ลองมาดูแอปยอดนิยมที่หลายคนใช้หารายได้ในปี 2025 กันดีกว่า
Google Opinion Rewards: ตอบแบบสอบถามสั้นๆ รับเงินทันที
สำหรับคนที่มีเวลาว่างและชอบการตอบคำถาม Google Opinion Rewards เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แอปนี้ช่วยให้คุณสร้างรายได้ผ่านการตอบแบบสอบถามสั้นๆ โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที คุณจะได้รับรางวัลเป็น Google Play Credits หรือเงินผ่าน PayPal
จุดเด่นของ Google Opinion Rewards:
- รับเงินประมาณ $0.10 – $1.00 ต่อแบบสำรวจ
- ใช้งานง่าย เพียงตอบแบบสอบถามในเวลาว่าง
- แบบสำรวจมีความหลากหลายและตรงประเด็น
เคล็ดลับสำคัญคือ ควรตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ได้รับแบบสอบถามใหม่ๆ ที่มีรางวัลสูงขึ้น และควรเปิดการแจ้งเตือนเพื่อไม่พลาดแบบสอบถามที่มีจำนวนจำกัด
Survey Junkie: แลกความคิดเห็นเป็นของรางวัลหลากหลาย
Survey Junkie เป็นอีกแอปหนึ่งที่ช่วยให้คุณหารายได้จากการตอบแบบสอบถาม แต่มีความยืดหยุ่นมากกว่าด้วยระบบการแลกรางวัลที่หลากหลาย เช่น บัตรของขวัญ Amazon, Visa, Starbucks หรือเงินสดผ่าน PayPal
จุดเด่นของ Survey Junkie:
- สะสมคะแนน 100 แต้ม แลกเป็นเงิน $1 ได้ทันที
- มีแบบสอบถามให้ทำตั้งแต่ 5 นาทีถึง 30 นาที
- สามารถแลกแต้มได้ง่ายเมื่อสะสมครบ 500 คะแนน
นี่เป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยเปลี่ยนเวลาว่างให้กลายเป็นรายได้เสริม โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่รอรถ รอคิว หรือระหว่างเดินทาง
Blockdit: แพลตฟอร์มสำหรับนักเขียนสร้างรายได้
สำหรับคนที่มีใจรักในการเขียน Blockdit เป็นแอปพลิเคชันที่ตอบโจทย์สายครีเอทีฟได้เป็นอย่างดี แอปนี้ให้คุณสร้างรายได้จากบทความที่มีคุณภาพผ่านระบบการให้รางวัลที่เรียกว่า “เพชร” และการแบ่งรายได้จากโฆษณา
จุดเด่นของ Blockdit:
- ผู้ที่มีผู้ติดตามเกิน 1,000 คน สามารถเปิดฟีเจอร์ “หารายได้” ได้
- สร้าง Premium Post ให้ผู้อ่านจ่ายเงินก่อนอ่านเนื้อหาพิเศษ
- รับส่วนแบ่งรายได้จากโฆษณาที่แสดงในบทความของคุณ
ทุกเพชรที่ได้รับสามารถแลกเป็นเงินสดได้ โดยเพชร 1 เม็ด มีมูลค่าประมาณ 0.3 บาท ยิ่งเขียนบทความที่มีคุณภาพและตรงใจผู้อ่านมากเท่าไร โอกาสในการได้รับเพชรก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
Upwork for Freelancers: แพลตฟอร์มฟรีแลนซ์ระดับโลก
สำหรับผู้ที่มีทักษะเฉพาะทาง Upwork for Freelancers เป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมงานจากนายจ้างทั่วโลก ไม่ว่าคุณจะมีความเชี่ยวชาญด้านการเขียนโปรแกรม การออกแบบกราฟิก การเขียนบทความ หรือการแปลภาษา ก็สามารถหารายได้ผ่านแอปนี้ได้
สิ่งที่ทำให้ Upwork น่าสนใจ:
- มีงานหลากหลายประเภทให้เลือกตามความถนัด
- สามารถลงทะเบียนได้ง่ายและกำหนดอัตราค่าจ้างได้เอง
- มีระบบป้องกันการโกงผ่านสัญญาและการชำระเงินที่ปลอดภัย
เพียงสร้างโปรไฟล์ที่โดดเด่นและมีผลงานคุณภาพ คุณก็มีโอกาสได้รับงานที่ดีและสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง
TellScore: เปลี่ยนการเป็นอินฟลูเอนเซอร์ให้เป็นรายได้
หากคุณมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดีย TellScore เป็นแอปที่ช่วยให้คุณเปลี่ยนผู้ติดตามเหล่านั้นให้กลายเป็นรายได้ ด้วยการรับงานรีวิวสินค้าและบริการต่างๆ
ข้อดีของ TellScore:
- แม้เป็นอินฟลูเอนเซอร์ระดับเล็ก (Nano Influencer) ก็สามารถเริ่มได้
- ได้รับงานโดยตรงจากแบรนด์คุณภาพ
- สามารถถอนเงินได้เมื่อมีรายได้สะสมเกิน 1,500 บาท
คุณสามารถเลือกรับงานรีวิวที่ตรงกับความสนใจและสไตล์การนำเสนอของคุณ ทำให้สามารถสร้างรายได้จากสิ่งที่คุณชื่นชอบได้อย่างสร้างสรรค์

4 โมเดลธุรกิจสำหรับผู้พัฒนาแอปพลิเคชันในปี 2025
สำหรับผู้ที่มีความสนใจและทักษะในการพัฒนาแอปพลิเคชัน การสร้างแอปของตัวเองเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาล มาดูกันว่ามีโมเดลธุรกิจใดบ้างที่น่าสนใจในปี 2025
โมเดล Paid App: จ่ายครั้งเดียวใช้งานได้ตลอด
Paid App เป็นโมเดลที่ผู้ใช้ต้องจ่ายเงินเพื่อดาวน์โหลดแอปก่อนใช้งาน แม้จะฟังดูเรียบง่าย แต่ต้องวางแผนอย่างรอบคอบเพื่อดึงดูดผู้ใช้งาน โดยเฉพาะในตลาดที่มีแอปฟรีอยู่มากมาย
เคล็ดลับการใช้โมเดล Paid App ให้ประสบความสำเร็จ:
- เน้นการทำการตลาดด้วยรีวิวจากผู้ใช้รายแรกๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
- จัดโปรโมชันช่วงเปิดตัว เช่น ลดราคา เพื่อกระตุ้นยอดดาวน์โหลด
- เพิ่มคุณค่าให้แอปด้วยเนื้อหาพิเศษและฟีเจอร์ที่โดดเด่นกว่าแอปฟรี
ตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จในปี 2025 คือแอป MOODA ซึ่งเป็นแอปจดบันทึกอารมณ์ที่ได้รับความนิยมเพราะใช้งานง่ายและมีฟีเจอร์ที่เข้าใจกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง
โมเดล Subscription: รายได้ต่อเนื่องระยะยาว
โมเดล Subscription กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปี 2025 เพราะช่วยสร้างรายได้แบบต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ Netflix หรือ Spotify ที่ให้บริการบนพื้นฐานของการเก็บค่าบริการรายเดือน
วิธีนำ Subscription มาใช้ในแอปพลิเคชันให้ประสบความสำเร็จ:
- เสนอระยะเวลาทดลองใช้งานฟรี 7-30 วัน เพื่อให้ผู้ใช้ตัดสินใจก่อนสมัครสมาชิก
- มีแพ็กเกจหลากหลาย ทั้งรายเดือน รายปี พร้อมส่วนลดที่น่าดึงดูด
- เพิ่มเนื้อหาหรือฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาฐานสมาชิก
ข้อดีของโมเดลนี้:
- สร้างรายได้ต่อเนื่องในระยะยาว สามารถวางแผนธุรกิจได้แม่นยำขึ้น
- เข้าใจพฤติกรรมผู้ใช้มากขึ้นจากข้อมูลที่เก็บระหว่างการสมัครสมาชิก
- สร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับผู้ใช้งาน เพิ่มโอกาสในการขยายบริการ
ตัวอย่างที่น่าสนใจคือ Headspace แอปฝึกสมาธิที่มอบฟีเจอร์ขั้นสูงเฉพาะสมาชิกเท่านั้น ซึ่งสร้างรายได้มหาศาลจากผู้ใช้ทั่วโลก
โมเดล In-App Purchase: ซื้อเพิ่มเติมตามต้องการ
สำหรับแอปเกมหรือแอปที่สามารถเพิ่มฟีเจอร์พิเศษได้ In-App Purchase เป็นโมเดลที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ตัวอย่างง่ายๆ เช่น การซื้อไอเทมในเกมมือถือ หรือการปลดล็อกฟีเจอร์ในแอปที่ดาวน์โหลดฟรี
การใช้ In-App Purchase อย่างมีประสิทธิภาพ:
- ใช้หลักจิตวิทยาในการตั้งราคา เช่น ตั้งราคาที่ลงท้ายด้วย 9 เช่น 29 บาท, 99 บาท
- สร้างข้อเสนอแบบจำกัดเวลา (Limited Time Offer) เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ
- เพิ่มไอเทมหรือฟีเจอร์พิเศษที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าจำเป็นต้องมี
ในปี 2025 เกมอย่าง Angry Birds ยังคงเป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้ In-App Purchase สำหรับซื้อไอเทมเพิ่มพลังหรือปลดล็อกด่านพิเศษ ซึ่งสร้างรายได้มหาศาลให้กับผู้พัฒนา
โมเดล Advertising: ใช้ฟรี แต่มีโฆษณา
แอปพลิเคชันฟรีหลายแอปสร้างรายได้มหาศาลจากโฆษณา เช่น Facebook หรือ YouTube โมเดลนี้ช่วยเพิ่มจำนวนผู้ใช้แอปได้อย่างรวดเร็วเพราะไม่มีอุปสรรคด้านราคา
วิธีใช้ Advertising Model อย่างมีประสิทธิภาพ:
- แสดงโฆษณาแบบพอเหมาะ ไม่รบกวนการใช้งานมากเกินไป เช่น โฆษณาแบบ Banner หรือ Reward Ads
- ใช้ระบบ Personalization เพื่อแสดงโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับความสนใจของผู้ใช้
- จัดวางโฆษณาให้กลมกลืนกับ UI/UX เพื่อไม่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกรำคาญ
ข้อควรระวัง: อย่าแสดงโฆษณามากเกินไป เพราะจะทำให้ผู้ใช้เลิกใช้งานแอป ตัวอย่างที่ดีคือ YouTube ที่ให้ผู้ใช้ข้ามโฆษณาได้หลังจากผ่านไป 5 วินาที

แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยมสำหรับการสร้างรายได้
นอกจากแอปพลิเคชันเฉพาะทางแล้ว แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยมก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างรายได้ที่น่าสนใจในปี 2025
TikTok: สร้างคอนเทนต์สั้นๆ รายได้ไม่สั้น
TikTok ยังคงเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการสร้างวิดีโอสั้นๆ เมื่อบัญชีของคุณมีผู้ติดตามมากกว่า 10,000 คนและมียอดชมวิดีโออย่างน้อย 100,000 ครั้งภายใน 30 วัน คุณสามารถเริ่มสร้างรายได้จากหลายช่องทาง
ช่องทางสร้างรายได้บน TikTok:
- TikTok Creator Fund ที่จ่ายเงินตามยอดวิวและการมีส่วนร่วม
- ของขวัญในการถ่ายทอดสดที่สามารถแปลงเป็นเงินจริงได้
- การร่วมมือกับแบรนด์ต่างๆ ในการโปรโมทสินค้า
- การตลาดแบบพันธมิตร (Affiliate Marketing) โดยแนะนำสินค้าและบริการ
YouTube: เนื้อหายาว รายได้ยาวนาน
YouTube ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่มั่นคงสำหรับผู้สร้างคอนเทนต์ที่ต้องการรายได้ระยะยาว โดยเฉพาะสำหรับเนื้อหาที่มีความยาวและรายละเอียดมากกว่า TikTok เมื่อช่องของคุณมีผู้ติดตามถึง 1,000 คนและได้รับการรับชมรวม 4,000 ชั่วโมงในรอบ 12 เดือน คุณสามารถเริ่มสร้างรายได้ได้หลากหลายรูปแบบ
ช่องทางสร้างรายได้บน YouTube:
- โปรแกรมพันธมิตร YouTube ที่ให้ส่วนแบ่งรายได้จากโฆษณา
- Super Chat และ Super Thanks ระหว่างการถ่ายทอดสด
- รายได้จากการเป็นสมาชิกช่อง (Channel Membership)
- การร่วมมือกับแบรนด์และการตลาดแบบพันธมิตร

ช่องทางการลงทุนผ่านแอปพลิเคชันในปี 2025
นอกจากการสร้างคอนเทนต์แล้ว การลงทุนผ่านแอปพลิเคชันก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางสร้างรายได้ที่น่าสนใจ
แอปลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงิน
สำหรับผู้ที่สนใจการลงทุนในตลาดการเงิน มีแอปพลิเคชันมากมายที่ช่วยให้คุณสามารถลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ได้อย่างสะดวก เช่น ทองคำ, หุ้น, สกุลเงินคริปโต หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ
ข้อดีของการลงทุนผ่านแอปพลิเคชัน:
- สามารถลงทุนได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านสมาร์ทโฟน
- มีข้อมูลและเครื่องมือวิเคราะห์ที่ช่วยในการตัดสินใจ
- ค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่ต่ำกว่าการลงทุนแบบดั้งเดิม
อย่างไรก็ตาม การลงทุนมีความเสี่ยง คุณควรศึกษาข้อมูลให้ดีและไม่ลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถสูญเสียได้
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการหารายได้จากโมบายแอปพลิเคชัน
แอปพลิเคชันใดเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหารายได้?
Google Opinion Rewards เป็นแอปที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นมากที่สุด เพราะใช้งานง่ายและได้รับเงินทันทีจากการตอบแบบสอบถามสั้นๆ ไม่ต้องมีทักษะพิเศษหรือความรู้เฉพาะทาง
Blockdit ต้องมีผู้ติดตามมากแค่ไหนถึงจะเริ่มหารายได้?
ผู้เขียนใน Blockdit จำเป็นต้องมีผู้ติดตามมากกว่า 1,000 คนจึงจะสามารถเปิดฟีเจอร์ “หารายได้” ได้ ดังนั้น ควรสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพอย่างสม่ำเสมอเพื่อดึงดูดผู้ติดตาม
Upwork ปลอดภัยสำหรับฟรีแลนซ์หรือไม่?
Upwork มีความปลอดภัยสูงสำหรับฟรีแลนซ์ เพราะทุกข้อตกลงต้องผ่านระบบสัญญาของแอป ซึ่งช่วยป้องกันการโกงจากผู้ว่าจ้าง อย่างไรก็ตาม ควรอ่านรีวิวของผู้ว่าจ้างก่อนรับงานทุกครั้ง
In-App Purchase กับ Subscription Model ต่างกันอย่างไร?
In-App Purchase เป็นการจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการเฉพาะครั้ง เช่น ไอเทมในเกม ส่วน Subscription Model เป็นการจ่ายค่าบริการเป็นรายเดือนหรือรายปีแบบต่อเนื่อง การเลือกใช้โมเดลใดขึ้นอยู่กับประเภทของแอปและพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย
สรุป
การหารายได้จากโมบายแอปพลิเคชันในปี 2025 มีหลากหลายรูปแบบที่สามารถเริ่มต้นได้ง่ายและสร้างรายได้จริง ไม่ว่าจะเป็นการใช้แอปที่มีอยู่แล้วอย่าง Google Opinion Rewards, Survey Junkie, Blockdit, Upwork หรือ TellScore หรือการพัฒนาแอปของตัวเองด้วยโมเดลธุรกิจที่เหมาะสม เช่น Paid App, Subscription, In-App Purchase หรือ Advertising
สำหรับคนยุคใหม่ที่ต้องการหารายได้เสริมหรือเปลี่ยนงานอดิเรกให้กลายเป็นอาชีพ โมบายแอปพลิเคชันเป็นช่องทางที่น่าสนใจและเข้าถึงได้ง่าย เพียงแค่เลือกวิธีที่เหมาะกับทักษะและความสนใจของตัวเอง ก็สามารถเริ่มต้นสร้างรายได้ได้ทันที
การเลือกโมเดลที่เหมาะสมกับตัวเองและกลุ่มเป้าหมายคือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ แอปพลิเคชันช่วยให้คุณเปลี่ยนเวลาว่างให้เป็นรายได้เสริม และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของอาชีพในอนาคตของคุณก็ได้
แอปพลิเคชัน #หารายได้ออนไลน์ #พัฒนาแอป #รายได้เสริม #โมบายแอป #สร้างรายได้ #การลงทุน #ฟรีแลนซ์ #สมัครสมาชิก #อินฟลูเอนเซอร์