
พูดภาษาเดียวกับกลุ่มเป้าหมาย: 12 ศัพท์โซเชียลฮิตปี 2568 ที่นักการตลาดต้องรู้
การตลาดออนไลน์ยุคนี้ไม่ใช่แค่การผลิตคอนเทนต์สวยๆ แล้วหวังให้คนกดไลก์อีกต่อไป แต่การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริงต้องพูดภาษาเดียวกับพวกเขา โดยเฉพาะในปี 2568 ที่ Gen Z และ Millennials กลายเป็นกลุ่มผู้บริโภคหลักของตลาด การใช้ “ศัพท์โซเชียล” ที่อินเทรนด์จึงเป็นอาวุธลับที่นักการตลาดควรมีติดมือ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 12 ศัพท์โซเชียลฮิตที่กำลังมาแรงในปี 2568 พร้อมวิธีใช้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้แบรนด์ของคุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงใจ

ทำไมนักการตลาดต้องรู้จักศัพท์โซเชียล
ในโลกดิจิทัลที่ผู้คนใช้เวลากับโซเชียลมีเดียเฉลี่ยวันละ 2-3 ชั่วโมง การเข้าใจภาษาที่กลุ่มเป้าหมายใช้สื่อสารกันเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะแบรนด์ที่ต้องการเข้าถึงกลุ่ม Gen Z และ Millennials ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อและอิทธิพลในตลาดปัจจุบัน
เพิ่มการมีส่วนร่วมและดึงดูดความสนใจ
ในยุคที่ทุกคนถูกโบมบาร์ดด้วยข้อมูลมากมาย คอนเทนต์ที่ไม่น่าสนใจจะถูกสไลด์ผ่านภายใน 3 วินาทีแรก การใช้ศัพท์โซเชียลช่วยให้โพสต์ของคุณดูสดใหม่ น่าสนใจ และโดดเด่นจากคู่แข่ง ทำให้มีโอกาสได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
สร้างความรู้สึกเป็นกันเองและความใกล้ชิด
โพสต์ที่ใช้ภาษาแบบเป็นกันเอง สไตล์เพื่อนคุยกับเพื่อน มีโอกาสสร้าง Engagement สูงกว่า เพราะทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกว่ากำลังคุยกับเพื่อน ไม่ใช่แบรนด์ที่พยายามขายของ ส่งผลให้ได้รับไลก์ แชร์ และคอมเมนต์มากขึ้น
เพิ่ม Brand Awareness และความน่าเชื่อถือ
เมื่อแบรนด์เข้าใจวัฒนธรรมและภาษาของกลุ่มเป้าหมาย จะทำให้แบรนด์ดูมีความเป็นมนุษย์มากขึ้น กลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่มักจะชื่นชอบและไว้วางใจแบรนด์ที่พูดภาษาเดียวกับพวกเขา คอนเทนต์ที่มีศัพท์โดนๆ มีแนวโน้มจะถูกแชร์ต่อในวงกว้าง ช่วยเพิ่ม Brand Awareness โดยไม่ต้องลงทุนซื้อโฆษณาเพิ่ม

12 ศัพท์โซเชียลฮิตปี 2568 ที่นักการตลาดต้องรู้
ศัพท์โซเชียลเกิดใหม่และเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ในปี 2568 มีศัพท์ที่กำลังมาแรงและนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในหมู่ชาวโซเชียล 12 คำต่อไปนี้เป็นศัพท์ที่นักการตลาดควรรู้จักและเข้าใจความหมายเพื่อนำไปใช้ในการทำคอนเทนต์ได้อย่างเหมาะสม
1. ชีเสิร์ฟ
ความหมาย: การชื่นชม หรืออวยสุดๆ แปลว่าเริ่ด เจิด เลิศ เกินต้าน
ที่มา: มาจากคำว่า “Serve look” ในวงการแฟชั่นและกลุ่ม LGBTQ+ ที่หมายถึงการแต่งตัวหรือแสดงออกได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ตัวอย่างการใช้ในการตลาด:
“ลิปสติกสีใหม่จากแบรนด์เรา #ชีเสิร์ฟมาก สีชัด ติดทน 24 ชั่วโมง”
“ลุคนี้ของพรีเซ็นเตอร์เราชีเสิร์ฟสุดๆ แฟนๆ คอมเมนต์มาเพียบ!”
2. ติดแกลม
ความหมาย: สวยเป๊ะ ออร่าแรง ดูหรูหราเกินคาด
ที่มา: มาจากคำว่า “Glamorous” ที่แปลว่าหรูหรา ดูแพง ดูมีระดับ
ตัวอย่างการใช้ในการตลาด:
“ใช้รองพื้นตัวนี้แล้วหน้าติดแกลมทันที ไม่ต้องพึ่งฟิลเตอร์”
“กระเป๋าคอลเลคชั่นใหม่ #ติดแกลม สวยขั้นเทพ ดูแพงเวอร์”
3. โฮ่ง
ความหมาย: ดีมาก เริ่ด ปัง
ที่มา: เชื่อว่ามาจากกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์และคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ใช้คำนี้เพื่อแสดงความชื่นชอบอย่างมาก
ตัวอย่างการใช้ในการตลาด:
“เมนูใหม่ของเราโฮ่งมาก อร่อยจนต้องสั่งซ้ำ”
“แคมเปญนี้โฮ่งสุดๆ ยอดขายพุ่งกระฉูด”
4. ฉ่ำ
ความหมาย: ปัง ดูดี มีออร่า ดีเกินคาด
ที่มา: ใช้แทนคำว่า “ดีมาก” “สวยมาก” ให้มีความรู้สึกเวอร์วังและมีมิติมากขึ้น
ตัวอย่างการใช้ในการตลาด:
“เซรั่มตัวนี้ทาแล้วผิวฉ่ำวาว ชุ่มชื้นตลอดวัน”
“โปรโมชั่นส่งท้ายปีฉ่ำมาก ของแถมเพียบ”
5. ฮ้อบ
ความหมาย: ชอบ ถูกใจ
ที่มา: มาจากคอนเทนต์ครีเอเตอร์บน TikTok ที่ใช้คำนี้แสดงความชื่นชอบในแบบเขินอาย
ตัวอย่างการใช้ในการตลาด:
“ลูกค้าทุกคนที่ได้ลองบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ฮ้อบ!”
“สินค้าตัวนี้ทำเอาสาวๆ ฮ้อบกันทั้งออฟฟิศ”
6. มันจะไอนั่น
ความหมาย: ใช้แทนความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก หรือแทนคำพูดที่คิดไม่ออก
ที่มา: เริ่มจากมุกตลกในโซเชียลที่ใช้คำว่า “ไอนั่น” แทนคำที่ลืมหรือพูดไม่ออก
ตัวอย่างการใช้ในการตลาด:
“ลองชิมแล้วบอกได้คำเดียว มันจะไอนั่นนนน”
“ใช้ครีมเราแล้วผิวจะสวยแบบมันจะไอนั่น บอกไม่ถูก ต้องลองเอง!”
7. เอดูเขต
ความหมาย: การให้ความรู้ อธิบาย สอน
ที่มา: มาจากคำว่า “Educate” (ให้การศึกษา) นำมาพูดทับศัพท์แบบไทยๆ
ตัวอย่างการใช้ในการตลาด:
“วันนี้เรามาเอดูเขตเรื่องการดูแลผิวในหน้าหนาวกัน”
“เอดูเขตหน่อยว่าทำไมสบู่ธรรมดาถึงไม่เหมาะกับผิวหน้า”
8. ทำถึง
ความหมาย: ทำได้ดีเกินคาด หรือทำได้สุดมากๆ
ที่มา: เป็นการพูดเน้นย้ำว่าทำได้ดีมากจริงๆ มีความทุ่มเทสูง
ตัวอย่างการใช้ในการตลาด:
“แบรนด์เราทำถึงมาก ใส่ใจทุกรายละเอียดจนได้รับรางวัลการันตี”
“พนักงานเราทำถึงทุกคน บริการด้วยใจ ลูกค้าประทับใจแน่นอน”
9. รู้สึกนอยด์
ความหมาย: เศร้า น้อยใจ หรือรู้สึกแย่กับอะไรบางอย่าง
ที่มา: มาจากคำว่า “Annoyed” (รำคาญ/ไม่โอเค) แต่ใช้ในความหมายที่เกี่ยวกับความรู้สึกเศร้า น้อยใจ
ตัวอย่างการใช้ในการตลาด:
“รู้สึกนอยด์ไหมเวลาแต่งหน้าแล้วโดนฝน? เรามีกันน้ำมาช่วยคุณ”
“อย่าให้ผิวแห้งทำให้คุณรู้สึกนอยด์อีกต่อไป ด้วยมอยเจอไรเซอร์ตัวใหม่ของเรา”
10. แต่ละมื้อ แต่ละเว็น
ความหมาย: แต่ละวัน หรือแต่ละช่วงเวลาในชีวิต
ที่มา: มาจากภาษาอีสาน ใช้เล่าเรื่องชีวิตประจำวันแบบติดตลก
ตัวอย่างการใช้ในการตลาด:
“แต่ละมื้อแต่ละเว็นเหนื่อยกับงานแค่ไหน กาแฟของเราช่วยคุณได้”
“แต่ละมื้อแต่ละเว็น เราเข้าใจว่าสาวๆ ต้องการความสะดวกสบาย”
11. ล่าแบ้
ความหมาย: จะบ้า หรือแสดงความตกใจสุดขีด
ที่มา: มาจากภาษาลู “ล่าแบ้” ก็คือ “บ้า” นิยมใช้ในกลุ่ม LGBTQ+
ตัวอย่างการใช้ในการตลาด:
“ลดราคาแบบนี้ ล่าแบ้แล้วค่ะคุณลูกค้า รีบมาช้อปก่อนหมด!”
“เห็นโปรโมชั่นนี้แล้วล่าแบ้ ถูกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว”
12. อดทนจนกว่าจะแลนด์
ความหมาย: อดทนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะสำเร็จหรือถึงจุดหมาย
ที่มา: เปรียบเทียบกับเครื่องบินที่ต้องบินจนกว่าจะแลนด์ดิ้งหรือถึงที่หมาย
ตัวอย่างการใช้ในการตลาด:
“อดทนจนกว่าจะแลนด์กับการลดน้ำหนัก ผลิตภัณฑ์เราช่วยคุณได้”
“การเริ่มต้นธุรกิจต้องอดทนจนกว่าจะแลนด์ เราเข้าใจและพร้อมอยู่เคียงข้างคุณ”

กลยุทธ์การใช้ศัพท์โซเชียลให้ปังในงานการตลาด
การรู้ศัพท์อย่างเดียวไม่พอ ต้องรู้จักใช้ให้ถูกกาลเทศะและเหมาะสมกับแบรนด์ด้วย นี่คือเทคนิคสำคัญในการใช้ศัพท์โซเชียลให้มีประสิทธิภาพในงานการตลาด
เลือกใช้ให้เหมาะกับแบรนด์และกลุ่มเป้าหมาย
การใช้ศัพท์โซเชียลต้องคำนึงถึงความเหมาะสมกับตัวตนของแบรนด์และกลุ่มเป้าหมาย แบรนด์ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่นหรือคนรุ่นใหม่สามารถใช้ศัพท์เหล่านี้ได้อย่างเต็มที่ แต่สำหรับแบรนด์ที่มีความเป็นทางการสูง เช่น ธนาคาร โรงพยาบาล ควรเลือกใช้อย่างระมัดระวังหรือใช้ในบางจุดเท่านั้น
ตัวอย่าง:
- แบรนด์เสื้อผ้าวัยรุ่น: “คอลเลคชั่นใหม่ #ชีเสิร์ฟ #ติดแกลม แบบนี้ต้องรีบจับจอง!”
- ธนาคาร: “บัตรเครดิตใหม่ที่ให้คุณ ‘ฮ้อบ’ กับทุกประสบการณ์การใช้จ่าย พร้อมสิทธิประโยชน์มากมาย”
ใช้อย่างพอดี ไม่มากเกินไป
การใช้ศัพท์โซเชียลที่ติดเทรนด์ช่วยให้คอนเทนต์ดูทันสมัย แต่หากใช้มากเกินไปในหนึ่งโพสต์หรือหนึ่งแคมเปญ อาจทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติและเข้าใจยาก ควรเลือกใช้แค่ 1-2 คำในหนึ่งโพสต์ เพื่อให้ยังคงอ่านง่ายและไม่ดูเฟค
ตัวอย่างที่ไม่เหมาะสม:
“สินค้าใหม่โฮ่งมาก! ชีเสิร์ฟสุด! ฉ่ำวาว! ติดแกลม! ฮ้อบเลย! อดทนจนกว่าจะแลนด์แล้วมาซื้อกัน!”
ตัวอย่างที่เหมาะสม:
“สินค้าใหม่ของเราต้องบอกว่า ‘โฮ่งมาก’ คุณภาพเกินราคา ลองแล้วต้องหลงรัก”
อัพเดทศัพท์ใหม่อยู่เสมอ
โลกโซเชียลมีเดียเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ศัพท์ที่ฮิตวันนี้อาจล้าสมัยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า นักการตลาดจึงต้องติดตามเทรนด์ใหม่ๆ อยู่เสมอ โดยอาจติดตามจาก:
- แฮชแท็กยอดนิยมใน Twitter, TikTok, Instagram
- คอนเทนต์ไวรัลบนโซเชียลมีเดีย
- เพจหรือคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่นำเสนอเทรนด์ล่าสุด
- ติดตามอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังในกลุ่มเป้าหมายของคุณ
ความผิดพลาดที่พบบ่อย คือการใช้ศัพท์ที่เคยฮิตเมื่อ 2-3 ปีก่อน ซึ่งอาจทำให้แบรนด์ดูล้าสมัยแทนที่จะดูทันเทรนด์ เช่น การใช้คำว่า “จ๊าบ” “คูล” หรือ “เฟี้ยวฟ้าว” ในปี 2568
ใช้ในช่องทางที่เหมาะสม
ศัพท์โซเชียลเหมาะกับแพลตฟอร์มที่มีความเป็นกันเองสูง เช่น TikTok, Instagram, Twitter หรือ Facebook ส่วนช่องทางที่เป็นทางการมากกว่า เช่น เว็บไซต์องค์กร อีเมล หรือจดหมายข่าว ควรใช้ด้วยความระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยง
ตัวอย่าง:
- TikTok: “ลุคนี้ของพรีเซ็นเตอร์เรา ชีเสิร์ฟมาก!”
- เว็บไซต์ของบริษัท: “เสื้อผ้าคอลเลคชั่นล่าสุดที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากกลุ่มวัยรุ่น”
ทดสอบและวัดผล
เมื่อเริ่มใช้ศัพท์โซเชียลในการทำการตลาด ควรทดสอบประสิทธิภาพควบคู่ไปด้วย โดยอาจทำ A/B Testing เปรียบเทียบโพสต์ที่ใช้ศัพท์โซเชียลกับโพสต์แบบปกติ ดูความแตกต่างของ Engagement, Reach และ Conversion Rate เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น

ความท้าทายของการใช้ศัพท์โซเชียลในการตลาด
แม้การใช้ศัพท์โซเชียลจะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มาพร้อมความท้าทายที่นักการตลาดควรตระหนัก
ความเสี่ยงจากการใช้ผิดบริบท
การใช้ศัพท์โซเชียลผิดความหมายหรือผิดบริบทอาจทำให้แบรนด์ดูไม่น่าเชื่อถือ ถูกล้อเลียน หรือเกิดกระแสดรามาที่ไม่พึงประสงค์ได้ ก่อนใช้ศัพท์ใดๆ ควรศึกษาความหมายและบริบทให้ชัดเจน หรือปรึกษาคนรุ่นใหม่ในทีม
การเปลี่ยนแปลงรวดเร็วของเทรนด์
ศัพท์โซเชียลมีวงจรชีวิตสั้น บางคำอาจฮิตเพียงไม่กี่เดือนก็เปลี่ยนไป ทำให้การติดตามเทรนด์เป็นงานที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง นักการตลาดต้องพร้อมปรับตัวและอัปเดตความรู้อยู่เสมอ
ความแตกต่างระหว่างช่วงอายุ
เข้าใจว่าศัพท์บางคำอาจเหมาะกับคนรุ่นใหม่ แต่อาจทำให้คนรุ่นเก่างงได้ ดังนั้นควรวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนก่อนเลือกใช้ และอาจต้องปรับใช้ศัพท์แตกต่างกันไปตามแคมเปญและช่องทาง
บทสรุป: พูดภาษาเดียวกันเพื่อการตลาดที่ปัง
การใช้ศัพท์โซเชียลอย่างเหมาะสมเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายยุคใหม่ ทำให้แบรนด์ดูทันสมัย มีชีวิตชีวา และเข้าถึงได้ง่าย แต่การใช้ศัพท์เหล่านี้ต้องทำด้วยความเข้าใจและระมัดระวัง เลือกใช้ให้เหมาะกับแบรนด์และกลุ่มเป้าหมาย ใช้อย่างพอดีไม่มากเกินไป และติดตามเทรนด์อยู่เสมอ
ในโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การรู้เท่าทันภาษาที่กลุ่มเป้าหมายใช้คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้คอนเทนต์ของคุณโดนใจ มี Engagement สูง และทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำในใจผู้บริโภค นับเป็นการลงทุนด้านความรู้ที่คุ้มค่าสำหรับนักการตลาดดิจิทัลยุคปัจจุบัน
#ศัพท์โซเชียล #ContentMarketing #DigitalMarketing #การตลาดออนไลน์ #ภาษาวัยรุ่น #SocialMedia #MarketingTips #คอนเทนต์มาร์เก็ตติ้ง #GenZ