คำสแลง Gen Alpha คืออะไร? ทำไมพ่อแม่และครูต้องรู้ทันภาษาเด็กยุคใหม่

Generation Alpha หรือเด็กที่เกิดตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา ถือเป็นรุ่นแรกที่เติบโตมาพร้อมกับยุคดิจิทัลตั้งแต่แรกเกิด พวกเขามีความคุ้นเคยกับเทคโนโลยี มีความตระหนักรู้ทางสังคม และมีความผูกพันอย่างลึกซึ้งกับเนื้อหาออนไลน์ รูปแบบการสื่อสารของพวกเขาสะท้อนถึงการเติบโตในโลกดิจิทัล มีการสร้างคำสแลงใหม่ๆ ที่เกิดจากโซเชียลมีเดีย เกมออนไลน์ และการมีปฏิสัมพันธ์ในโลกออนไลน์

จากตัวย่อไปจนถึงอีโมจิ ภาษาของ Gen Alpha มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ได้รับอิทธิพลจากแพลตฟอร์มอย่าง TikTok, YouTube และชุมชนเกมออนไลน์ การทำความเข้าใจคำสแลงของพวกเขาจึงมีความสำคัญสำหรับพ่อแม่ ครู นักการตลาด และทุกคนที่ต้องการเชื่อมต่อกับคนรุ่นใหม่นี้

Gen Alpha คือใคร และทำไมคำสแลงของพวกเขาถึงแตกต่าง

Gen Alpha เป็นเด็กรุ่นใหม่ที่เกิดระหว่างปี 2010-2025 พวกเขาเติบโตในยุคที่เทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ Instagram เริ่มเปิดตัว คำว่า “app” กลายเป็นคำทั่วไปและ iPad เปิดตัวครั้งแรกในช่วงต้นปี 2000

ด้วยการเติบโตในยุคดิจิทัล คำสแลงส่วนใหญ่ของพวกเขาจึงมาจากรูปแบบการสื่อสารที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น YouTube, TikTok, Instagram, Roblox รวมถึงจากโรงเรียนและเพื่อนฝูง แม้พวกเขาจะไม่ได้ใช้คำเดียวกันกับ Gen Z แต่คำสแลงของทั้งสองรุ่นก็มีความทับซ้อนกันบ้าง การเข้าใจคำศัพท์จากทั้งสองกลุ่มจะช่วยให้คุณเข้าร่วมในการสนทนาได้ และหลีกเลี่ยงการถูกเรียกว่า “beta” (หมายถึงคนที่ไม่กล้าแสดงออก หรืออ่อนแอ)

คำสแลงยอดฮิตของ Gen Alpha ที่คุณต้องรู้ความหมาย

Skibidi

คำว่า “Skibidi” มาจากซีรีส์วิดีโอบน YouTube ชื่อ “Skibidi Toilet” ที่เปิดตัวในช่วงต้นปี 2023 โดย Alexey Gerasimov เนื้อหาเกี่ยวกับหัวของมนุษย์ที่โผล่ออกมาจากชักโครก เรื่องราวเกี่ยวกับสงครามที่เกี่ยวข้องกับชักโครกยักษ์ที่ถืออาวุธขนาดใหญ่ ซีรีส์นี้ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่เด็กๆ บน YouTube Shorts มีผู้ชมนับสิบล้านครั้ง

ถ้าคุณได้ยินเด็กถามว่าใครบางคนเป็น skibidi หรือไม่ นั่นหมายความว่าพวกเขากำลังถามว่าคนนั้นชั่วร้ายหรือกำลังคิดไม่ดีอยู่หรือเปล่า แม้โดยทั่วไปมักจะบ่งบอกว่าบางสิ่งหรือบางคนน่าสงสัย แต่ความหมายก็อาจเปลี่ยนไปตามบริบทโดยเฉพาะในชุมชนเกม

Rizz

“Rizz” เป็นคำย่อมาจาก “charisma” ใช้เพื่ออธิบายถึงลักษณะของคนที่มีเสน่ห์ สไตล์ หรือความน่าดึงดูด หรือความสามารถในการดึงดูดคู่รัก Oxford ยังเลือกให้เป็น “คำแห่งปี” ในปี 2023 อีกด้วย

บริบทของคำนี้มีความสำคัญ หากคนมี “W rizz” (ย่อมาจาก “win”) หมายความว่าพวกเขามี rizz เยอะ ในขณะที่ “L rizz” (มาจากวลี “take the L” ที่หมายถึงการยอมรับความพ่ายแพ้อย่างสง่างาม) เป็นสิ่งตรงกันข้าม – หากใครบอกคุณว่าคุณมี “L rizz” หมายความว่าคุณขาด rizz อย่างรุนแรง น่าอาย

หากคุณมี rizz มากเป็นพิเศษ คุณอาจถูกเรียกว่า “rizzler” และหากคุณสามารถเสน่ห์ผู้คนได้โดยไม่ต้องพยายาม ผู้คนอาจบอกคุณว่าคุณมี “unspoken rizz”

Sigma

คำนี้มีที่มาจากตัวอักษรกรีก เป็นคำที่หมายถึงคนที่โดดเด่น เป็นผู้นำ มีความเท่ หรือเป็นคนที่ใคร ๆ ก็ชื่นชอบ เริ่มต้นจากอินฟลูเอนเซอร์ออนไลน์ที่น่าขันที่ทำเรื่อง “ถ้าผู้ชายเป็นหมาป่า ฉันจะเป็นจ่าฝูง” แต่ในระดับที่เกินจริง ปัจจุบันแพร่กระจายออกไปจากตรงนั้นและเพียงแค่หมายถึงดีมากโดยทั่วไป

Ohio

แม้จะสะกดเหมือนชื่อรัฐในสหรัฐอเมริกา แต่ Gen Alpha ได้เปลี่ยนความหมายของคำนี้มาใช้กับสิ่งที่ดูแปลก สถานที่แปลกๆ หรือสิ่งที่น่าเบื่อ Gen Z มักจะพูดว่า “What’s up with the people in this restaurant… Feels like we’re in Florida” แต่ Gen Alpha จะพูดว่า “What’s up with the people in this restaurant… Only in Ohio”

GYAT/Gyatt

GYAT (โดยไม่ใช่ทุกคนจะเห็นด้วยว่าเป็นตัวย่อ) เป็นวิธีชมคนที่มีก้นสวย มาจาก Girl Your A** Is Thick “ถ้าคุณมี BBL หรือถ้าก้นของคุณสั่นเมื่อคุณเดิน นั่นคือตอนที่คุณจะตะโกน GYAT ใส่ใครบางคน”

Fanum Tax

“Fanum Tax” มาจากสตรีมเมอร์ Fanum ที่มักจะหยิบของกินเพื่อนระหว่างการไลฟ์สตรีม หมายถึงการขโมยของกินของเพื่อนเล็กๆ น้อยๆ เช่น การหยิบเฟรนช์ฟรายจากจานของเพื่อนขณะที่เพื่อนไม่อยู่

Mewing

Mewing ไม่ใช่เสียงร้องของลูกแมว แต่เป็นการออกกำลังกายใบหน้าที่เกี่ยวข้องกับการวางลิ้นของคุณที่เพดานปาก โดยมีผลตั้งใจคือเพื่อเสริมสร้างและเน้นกราม นอกจากนี้ Gen Alpha ยังใช้การเคลื่อนไหวนี้เพื่อไม่ตอบคำถาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากครูหรือพ่อแม่ “ฉันตอบคำถามของคุณตอนนี้ไม่ได้ ฉันกำลัง mewing”

Cap/No Cap และ Fax

“Cap” แปลว่าคำโกหก หรือเท็จ ซึ่งมีที่มาจากภาษาแสลงของชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน ส่วน “No cap” แปลว่าความจริง ตรงข้ามกับ cap คือ “fax” ที่มาจาก “facts”

อิทธิพลของสื่อดิจิทัลต่อภาษาของ Gen Alpha

ต่างจากคนรุ่นก่อน คำสแลงของ Gen Alpha แพร่กระจายเกือบทั้งหมดทางออนไลน์ นี่คือช่องทางหลักที่มีอิทธิพลต่อภาษาของพวกเขา:

TikTok

TikTok กลายเป็นแพลตฟอร์มชั้นนำสำหรับเทรนด์ไวรัล รวมถึงคำสแลงใหม่ๆ วิดีโอสั้นๆ ทำให้วลีเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว นำไปสู่การนำไปใช้อย่างแพร่หลาย

ชุมชนเกม

เกมอย่าง Fortnite, Minecraft และ Roblox ให้พื้นที่ทางสังคมที่ผู้เล่นที่อายุน้อยสื่อสารและคิดค้นคำศัพท์ใหม่ๆ

YouTube และบริการสตรีมมิ่ง

อินฟลูเอนเซอร์ YouTube และสตรีมเมอร์แนะนำคำและวลีใหม่ๆ ที่ผู้ชมที่อายุน้อยใช้ในการสนทนาในชีวิตประจำวัน

มีมและวัฒนธรรมอินเทอร์เน็ต

วัฒนธรรมมีมมีบทบาทสำคัญในวิธีที่ Gen Alpha สื่อสาร โดยมีอารมณ์ขันและมุกภายในที่กำหนดคำศัพท์ของพวกเขา

ผลกระทบของอินฟลูเอนเซอร์

ผู้สร้างเนื้อหาที่ได้รับความนิยมมีอิทธิพลต่อภาษาของ Gen Alpha โดยรวมเอาคำสแลงเข้าไปในเนื้อหาของพวกเขาที่ผู้ติดตามนำไปใช้อย่างรวดเร็ว

ความแตกต่างระหว่างสแลง Gen Alpha กับ Gen Z

Gen Alpha และ Gen Z ใช้คำสแลงบางคำร่วมกัน แต่ก็มีความแตกต่างที่น่าสนใจ:

• Gen Z ใช้คำว่า “Ate” ในการชื่นชมสิ่งที่ยอดเยี่ยม เช่น “Oh my god did you see her outfit? I loved it, she ate.” แต่ Gen Alpha ใช้คำว่า “Sigma” เช่น “What the sigma, look at her outfit!”
• Gen Z พูดว่า “Serving” เมื่อชื่นชมรูปลักษณ์ เช่น “Wow, his jawline is serving.” แต่ Gen Alpha พูดว่า “Mewing” เช่น “Wow, his jawline… he’s definitely been mewing.”
• Gen Z ใช้คำว่า “Jail” เมื่อเกิดสิ่งไม่ดี เช่น “He literally called me out in front of a huge group of people… jail.” แต่ Gen Alpha ใช้ “Negative Aura” เช่น “-1000 (negative 1000) aura for calling me out in front of a huge group.”
• Gen Z พูดถึง “Florida” เมื่อหมายถึงสิ่งแปลกประหลาด เช่น “What’s up with the people in this restaurant… Feels like we’re in Florida.” แต่ Gen Alpha ใช้ “Ohio” เช่น “What’s up with the people in this restaurant… Only in Ohio”

น่าสนใจที่คำที่เคยฮิตในหมู่ Gen Z บางคำกลับกลายเป็น “out” สำหรับ Gen Alpha แล้ว เช่น คำว่า “Slay” ที่ Gen Alpha มองว่าล้าสมัยไปแล้ว ดังที่กล่าวว่า “It’s not even funny how ‘out’ slay is”

ทำไมต้องเข้าใจภาษาของ Gen Alpha?

สำหรับพ่อแม่และผู้ปกครอง

การเข้าใจภาษาที่ลูกใช้จะช่วยให้สื่อสารได้ดีขึ้น ลดช่องว่างระหว่างวัย และรู้เท่าทันสิ่งที่เด็กๆ พูดคุยกัน โดยเฉพาะประเด็นที่อาจเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยออนไลน์

สำหรับครูและนักการศึกษา

ครูสามารถใช้ความเข้าใจนี้เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับนักเรียน ตีความการสื่อสารของนักเรียนได้ถูกต้อง และระบุปัญหาเช่นการรังแกกันได้ การเข้าใจภาษาของพวกเขาไม่ใช่เกี่ยวกับการดูเท่ แต่เป็นการเชื่อมต่อกับนักเรียนและจัดการห้องเรียนอย่างมืออาชีพ

สำหรับนักการตลาด

การเข้าใจภาษาของกลุ่มเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างแคมเปญที่ตรงใจ แบรนด์ที่กำลังมุ่งเป้าไปที่กลุ่มผู้ชมที่อายุน้อยกว่าสามารถใช้สแลง Gen Alpha ในกลยุทธ์การตลาดเพื่อทำให้แคมเปญเข้าถึงได้มากขึ้น

สำหรับทุกคน

การใช้สแลง Gen Alpha อย่างเหมาะสมสามารถเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มอายุต่างๆ และสร้างการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

การทำความเข้าใจสแลงยุคใหม่เหมือนการเรียนภาษาใหม่

พ่อแม่และผู้ใหญ่บางครั้งอาจรู้สึกว่าต้องใช้ Duolingo สำหรับสแลงวัยรุ่น เมื่อได้ยินคำศัพท์แปลกใหม่ของ Gen Alpha อย่าง “skibidi” หรือ “gyat” ที่ฟังดูเหมือนภาษาต่างดาว

ความจริงแล้ว ทุกรุ่นมีภาษาสแลงเป็นของตัวเอง เช่นเดียวกับที่พ่อแม่ยุคก่อนอาจงงกับคำว่า “rad” หรือ “gnarly” ที่ลูกๆ ใช้ การมีคำสแลงเป็นพิธีการผ่านของทุกรุ่น และ Gen Alpha ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

แต่ในยุคดิจิทัล ภาษาเปลี่ยนแปลงเร็วกว่าที่เคย บางทีคุณเพิ่งจะเรียนรู้ว่า “sus” หมายความว่าอย่างไร แต่ Gen Alpha ก็มาพร้อมกับคำใหม่ที่ทำให้คุณรู้สึกแก่อีกครั้ง

สรุป: ก้าวให้ทันโลกของ Gen Alpha

การเข้าใจคำสแลงของ Gen Alpha ไม่ใช่เพียงแค่การตามเทรนด์ แต่เป็นการเชื่อมช่องว่างการสื่อสารและทำความเข้าใจถึงรุ่นใหม่นี้ ภาษาของพวกเขาสะท้อนโลกดิจิทัลที่พวกเขาเติบโตมา และเปลี่ยนแปลงเร็วเท่ากับเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนมัน

พ่อแม่ ครู และผู้ใหญ่ทุกคนควรทำความคุ้นเคยกับคำศัพท์เหล่านี้ ไม่ใช่เพื่อที่จะใช้มัน (เพราะอาจทำให้เด็กๆ อายได้!) แต่เพื่อเข้าใจโลกของพวกเขาดีขึ้น ตระหนักถึงความสำคัญของวัฒนธรรมออนไลน์ในชีวิตของพวกเขา และสร้างสะพานเชื่อมโยงระหว่างรุ่น

ในขณะที่ภาษาจะยังคงพัฒนาต่อไป การเปิดใจยอมรับการเปลี่ยนแปลงและความแปลกใหม่เป็นกุญแจสำคัญในการก้าวทันกับ Gen Alpha และเข้าใจโลกดิจิทัลที่พวกเขาสร้างขึ้น

GenAlpha #คำสแลง #ภาษาวัยรุ่น #Skibidi #Rizz #Sigma #Ohio #GYAT #FanumTax #Mewing #DigitalGeneration #เด็กยุคใหม่ #ภาษาออนไลน์