ติดต่อเรา

บริษัท นิวโฟลเดอร์888 จำกัด 159/229 หมู่ 6 หมู่บ้านสัมมากร อเวนิว ชัยพฤกษ์-วงแหวน ตำบล ลำโพ อำเภอ บางบัวทอง จังหวัด นนทบุรี 11110

090-916-9993 hello@newfolder.co.th
ติดตามเรา
86

ทำไมหลายประเทศต้องแบน TikTok? อะไรคือเหตุผลที่ทำให้แอปนี้ถูกห้ามใช้?

ขอบคุณรูปจาก :https://gleaner.rutgers.edu/2024/03/27/what-you-need-to-know-about-the-tiktok-ban/

ในช่วงที่ผ่านมา หลายประเทศทั่วโลกได้เริ่มดำเนินมาตรการแบนหรือจำกัดการใช้งานแอปพลิเคชัน TikTok ที่มีผู้ใช้งานนับพันล้านคน โดยมีเหตุผลหลักจากความกังวลด้านความปลอดภัยของข้อมูลและความมั่นคงของชาติ แม้ว่า TikTok จะเป็นแอปที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับการแชร์วิดีโอสั้นๆ แต่กลับเผชิญกับการถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับความเชื่อมโยงกับบริษัทแม่อย่าง ByteDance ที่มีฐานอยู่ในประเทศจีน ซึ่งอาจมีความเสี่ยงในการเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่พึงประสงค์ บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจเหตุผลหลักที่ทำให้หลายประเทศตัดสินใจแบน TikTok พร้อมรายชื่อประเทศที่ได้ดำเนินมาตรการจำกัดการใช้งานแอปนี้ไปแล้ว รวมถึงวิธีการแก้ปัญหาสำหรับผู้ใช้ที่อาศัยอยู่ในประเทศเหล่านั้น

2

เหตุผลหลักที่ทำให้ TikTok ถูกแบนในหลายประเทศ

TikTok กลายเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก แต่กลับต้องเผชิญกับความท้าทายด้านความเชื่อมั่นจากรัฐบาลทั่วโลก เหตุผลสำคัญที่ทำให้หลายประเทศตัดสินใจจำกัดหรือแบนการใช้งานแอปนี้มีหลายประการ ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับความกังวลด้านความปลอดภัยและผลกระทบต่อประเทศ

ความปลอดภัยทางไซเบอร์

หลายรัฐบาลทั่วโลกมีความกังวลว่าข้อมูลผู้ใช้งานบน TikTok อาจถูกแทรกแซงหรือนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการสอดแนม หรือปฏิบัติการทางไซเบอร์ ซึ่งอาจสร้างความเสี่ยงให้กับระบบและเครือข่ายของประเทศ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่า ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok มีสำนักงานใหญ่ในประเทศจีน

แม้ว่า TikTok จะออกมายืนยันหลายครั้งว่าไม่มีการส่งข้อมูลใดๆ ให้กับรัฐบาลจีน แต่ความไม่แน่ใจและข้อสงสัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทเอกชนจีนกับรัฐบาลจีนยังคงดำรงอยู่ ทำให้หลายประเทศเลือกที่จะดำเนินมาตรการเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

การละเมิดความเป็นส่วนตัวของข้อมูล

TikTok เก็บรวบรวมข้อมูลผู้ใช้จำนวนมาก ทั้งข้อมูลตำแหน่งที่อยู่ อุปกรณ์ที่ใช้งาน พฤติกรรมการใช้แอป และข้อมูลอื่นๆ อีกมากมาย หลายประเทศจึงมีความกังวลว่าอาจเกิดการนำข้อมูลส่วนตัวของประชาชนไปใช้ในทางที่ผิดหรือละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัว

ในประเทศที่มีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เข้มงวด เช่น ในยุโรปที่มี GDPR หรือในสหรัฐอเมริกาที่มีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลหลายฉบับ ก็มีความกังวลว่าการเก็บข้อมูลในลักษณะนี้อาจขัดกับข้อกำหนดของกฎหมายท้องถิ่น จึงเป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้จำนวนประเทศที่แบน TikTok เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ความกังวลด้านการเมือง

ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งคือความกังวลในแง่มุมทางการเมือง เนื่องจาก ByteDance มีสำนักงานใหญ่ในจีน ซึ่งมีความสัมพันธ์ทางการเมืองที่ตึงเครียดกับหลายประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและพันธมิตร ทำให้มีความกังวลว่า TikTok อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือที่มีนัยทางการเมือง หรือเพื่อสร้างอิทธิพลต่อความคิดของประชาชน

หลายประเทศมองว่าการแบน TikTok เป็นมาตรการป้องกันล่วงหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลของประชาชนและความมั่นคงของชาติจะไม่ถูกคุกคามจากอิทธิพลของรัฐบาลต่างชาติ ทำให้ตัดสินใจดำเนินมาตรการจำกัดการใช้งานแอปนี้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ

3

ประเทศที่แบน TikTok มีที่ไหนบ้าง?

จากความกังวลด้านความปลอดภัยและความมั่นคง หลายประเทศทั่วโลกได้เริ่มดำเนินมาตรการจำกัดการใช้งาน TikTok ในระดับต่างๆ กัน โดยส่วนใหญ่จะเริ่มจากการห้ามใช้งานในอุปกรณ์ของภาครัฐก่อน แล้วจึงขยายขอบเขตไปสู่การแบนในระดับที่กว้างขึ้น มาดูกันว่ามีประเทศใดบ้างที่ได้ดำเนินมาตรการกับ TikTok

อินเดีย

อินเดียเป็นประเทศที่แบน TikTok อย่างเด็ดขาดเป็นประเทศแรกๆ ของโลก โดยประกาศแบน TikTok ทั่วประเทศในปี 2020 หลังจากเกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างจีนและอินเดียบนพรมแดนของทั้งสองประเทศ การแบนในอินเดียไม่ได้จำกัดเฉพาะ TikTok เท่านั้น แต่ยังรวมถึงแอปพลิเคชันอื่นๆ ที่มาจากจีนอีกหลายแอป โดยอินเดียให้เหตุผลว่าเพื่อความปลอดภัยและอธิปไตยของชาติ

การตัดสินใจของอินเดียส่งผลกระทบอย่างมาก เนื่องจากอินเดียเป็นหนึ่งในตลาดผู้ใช้งานที่ใหญ่ที่สุดของ TikTok ก่อนมีการแบน ซึ่งมีผู้ใช้งานมากกว่า 200 ล้านคน

ไต้หวัน

ไต้หวันมีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านความมั่นคงที่อาจเกิดจาก TikTok ในเดือนธันวาคม 2022 รัฐบาลไต้หวันสั่งห้ามใช้ TikTok ในหน่วยงานภาครัฐ หลังจาก FBI ออกมาเตือนว่า TikTok อาจสร้างความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติ

ความตึงเครียดระหว่างไต้หวันกับจีนที่มีมาอย่างยาวนานเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้รัฐบาลไต้หวันมีความระมัดระวังอย่างสูงต่อแอปพลิเคชันที่มีต้นกำเนิดจากจีน เพื่อป้องกันการแทรกแซงทางการเมืองและการสอดแนมข้อมูล

ปากีสถาน

ทางการปากีสถานสั่งแบน TikTok ชั่วคราวอย่างน้อย 4 ครั้ง ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2020 เป็นต้นมา แต่เหตุผลของการแบนแตกต่างจากประเทศอื่นๆ โดยปากีสถานให้เหตุผลว่า TikTok อาจส่งเสริมเนื้อหาที่ผิดศีลธรรมและไม่เหมาะสมสำหรับเยาวชน

หน่วยงานกำกับดูแลโทรคมนาคมของปากีสถานระบุว่า การแบน TikTok เป็นการตอบสนองต่อเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ซึ่งขัดต่อค่านิยมและบรรทัดฐานทางสังคมของประเทศ แสดงให้เห็นว่าการแบน TikTok ไม่ได้เกิดจากความกังวลด้านความมั่นคงเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงประเด็นทางสังคมและวัฒนธรรมด้วย

อัฟกานิสถาน

ในปี 2022 อัฟกานิสถานสั่งแบน TikTok และเกม PUBG โดยให้เหตุผลว่าเพื่อปกป้องเยาวชนจากการถูกหลอกลวงและอิทธิพลที่ไม่เหมาะสม การตัดสินใจนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการที่เข้มงวดของรัฐบาลตาลีบันในการควบคุมสื่อและการเข้าถึงข้อมูลของประชาชน

การแบนในอัฟกานิสถานสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางสังคมและศาสนาที่อาจเกิดจากเนื้อหาบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ มากกว่าประเด็นด้านความมั่นคงของชาติ

4

วิธีแก้ปัญหาเมื่อ TikTok ถูกแบน

สำหรับผู้ใช้ที่อาศัยอยู่ในประเทศที่มีการแบน TikTok หรือกำลังเตรียมตัวรับมือกับการแบนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต มีวิธีการหลายอย่างที่สามารถใช้เพื่อเข้าถึง TikTok หรือใช้ทางเลือกอื่นแทน ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีและข้อควรระวังที่แตกต่างกัน

การใช้ VPN เพื่อเข้าถึง TikTok

Virtual Private Network หรือ VPN เป็นวิธีที่ผู้ใช้งานนิยมใช้เพื่อเข้าถึงเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่ถูกบล็อกในประเทศของตน VPN ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนตำแหน่งที่อยู่เสมือนว่าอยู่ในประเทศอื่นที่ไม่มีการแบน TikTok

เมื่อคุณเชื่อมต่อกับ VPN ข้อมูลการใช้งานอินเทอร์เน็ตของคุณจะถูกเข้ารหัสและส่งผ่านเซิร์ฟเวอร์ในประเทศอื่น ทำให้ดูเหมือนว่าคุณกำลังเข้าใช้งานจากประเทศนั้นๆ นอกจากนี้ VPN ยังช่วยปิดบังประวัติการท่องเว็บและการค้นหาจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ทำให้ไม่มีใครสามารถติดตามกิจกรรมออนไลน์ของคุณได้

อย่างไรก็ตาม มีข้อควรระวังสำหรับการใช้ VPN เพื่อเข้าถึง TikTok ในประเทศที่มีการแบน เนื่องจากในบางประเทศ การใช้ VPN เพื่อหลีกเลี่ยงการแบนอาจเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย นอกจากนี้ คุณควรเลือกใช้บริการ VPN ที่น่าเชื่อถือเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านความปลอดภัยอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น

แพลตฟอร์มทางเลือกแทน TikTok

หาก TikTok ถูกแบนอย่างถาวรในประเทศของคุณ และคุณไม่ต้องการเสี่ยงกับการใช้ VPN หรือวิธีอื่นๆ ที่อาจผิดกฎหมาย คุณสามารถหันไปใช้แพลตฟอร์มอื่นที่มีฟีเจอร์คล้ายๆ กันได้ เช่น:

  1. Instagram Reels – ฟีเจอร์ของ Instagram ที่อนุญาตให้ผู้ใช้สร้างและแชร์วิดีโอสั้นๆ คล้ายกับ TikTok
  2. YouTube Shorts – แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นของ YouTube ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
  3. Snapchat – แอปพลิเคชันที่เน้นการแชร์โมเมนต์ผ่านวิดีโอและรูปภาพ

แม้ว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้อาจให้ประสบการณ์ที่แตกต่างจาก TikTok บ้าง แต่ก็สามารถใช้เป็นทางเลือกในการแชร์และรับชมวิดีโอสั้นๆ ได้ โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องข้อจำกัดทางกฎหมาย

สร้างบัญชีใหม่บนแพลตฟอร์มอื่น

สำหรับผู้ที่ใช้งาน TikTok เพื่อการตลาดหรือธุรกิจ การสูญเสียการเข้าถึงแพลตฟอร์มนี้อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อกลยุทธ์การตลาดและการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ในกรณีนี้ การหันไปสร้างบัญชีใหม่บนแพลตฟอร์มอื่นที่ไม่ได้ถูกแบนเป็นทางเลือกที่ดี

การสร้างตัวตนบนหลายแพลตฟอร์ม (Multi-platform presence) เป็นกลยุทธ์ที่ฉลาด เนื่องจากช่วยลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่งมากเกินไป นอกจากนี้ ยังช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายมากขึ้น เนื่องจากแต่ละแพลตฟอร์มมีกลุ่มผู้ใช้ที่แตกต่างกัน

5

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการแบน TikTok

VPN คืออะไร และช่วยในการเข้าถึง TikTok ที่ถูกแบนได้อย่างไร?

VPN หรือ Virtual Private Network คือโปรแกรมที่สร้างการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยระหว่างอุปกรณ์ของคุณกับอินเทอร์เน็ต เมื่อคุณเชื่อมต่อกับ VPN ข้อมูลของคุณจะถูกเข้ารหัสและส่งผ่านเซิร์ฟเวอร์ในประเทศอื่น ทำให้ดูเหมือนว่าคุณกำลังเข้าใช้งานจากประเทศนั้นๆ

VPN ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึง TikTok ในประเทศที่มีการแบน โดยการเปลี่ยนตำแหน่งทางออนไลน์ของคุณให้เป็นประเทศที่ไม่มีการแบน TikTok อย่างไรก็ตาม ควรทราบว่าในบางประเทศ การใช้ VPN เพื่อหลีกเลี่ยงการแบนอาจเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงควรศึกษาข้อกฎหมายในประเทศของคุณก่อนใช้งาน

VPN ปิดบังข้อมูลอะไรได้บ้าง?

VPN สามารถปิดบังข้อมูลหลายอย่าง ได้แก่:

  1. ประวัติการท่องเว็บ – VPN จะปิดบังประวัติการท่องเว็บและการค้นหาจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต สิ่งเดียวที่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณสามารถเห็นได้คือการเชื่อมต่อที่เข้ารหัสไปยังเซิร์ฟเวอร์ VPN เท่านั้น
  2. ตำแหน่งทางออนไลน์ – VPN ช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนตำแหน่งทางออนไลน์ของคุณได้ โดยการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ทำให้คุณสามารถเข้าถึงเนื้อหาที่มีข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ได้
  3. การเชื่อมต่อข้อมูล – VPN ช่วยป้องกันความเป็นส่วนตัวเมื่อใช้ WiFi สาธารณะ การท่องเว็บแบบไม่ระบุตัวตน และการสื่อสารที่ปลอดภัย ทำให้กิจกรรมออนไลน์ของคุณไม่สามารถถูกสอดแนมได้

มีประเทศไหนอีกบ้างที่กำลังพิจารณาแบน TikTok?

นอกจากประเทศที่ได้แบน TikTok ไปแล้ว ยังมีอีกหลายประเทศที่กำลังพิจารณาหรือเริ่มมีการแสดงความกังวลเกี่ยวกับ TikTok เช่น:

  1. ออสเตรเลีย – รัฐบาลออสเตรเลียกำลังพิจารณามาตรการจำกัดการใช้งาน TikTok ในหน่วยงานภาครัฐ เนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัยของข้อมูล
  2. ญี่ปุ่น – ญี่ปุ่นกำลังเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบแอปพลิเคชันจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากจีน ซึ่งอาจนำไปสู่การจำกัดการใช้งาน TikTok ในอนาคต
  3. บราซิล – มีการเรียกร้องให้รัฐบาลบราซิลพิจารณาแบน TikTok เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลและผลกระทบต่อเยาวชน

หลายฝ่ายวิเคราะห์ว่า หากสหรัฐฯ ยังคงดำเนินการแบน TikTok อย่างต่อเนื่อง มีแนวโน้มที่ประเทศอื่นๆ จะตามรอยมาตรการนี้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศที่เป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ

สรุป

การแบน TikTok ในหลายประเทศทั่วโลกเป็นผลมาจากความกังวลด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และประเด็นทางการเมือง โดยเฉพาะความเชื่อมโยงระหว่าง ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok กับรัฐบาลจีน ทำให้หลายประเทศตัดสินใจดำเนินมาตรการจำกัดการใช้งานแอปนี้เพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติ

ประเทศที่ได้แบนหรือจำกัดการใช้งาน TikTok มีหลายประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อินเดีย อังกฤษ ฝรั่งเศส ไต้หวัน ปากีสถาน อัฟกานิสถาน และอีกหลายประเทศกำลังพิจารณามาตรการที่คล้ายคลึงกัน โดยสถานการณ์ล่าสุดในสหรัฐอเมริกา แม้จะมีการแบน TikTok แล้ว แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงภายใต้การนำของประธานาธิบดีคนใหม่

สำหรับผู้ใช้ในประเทศที่มีการแบน TikTok มีทางเลือกหลายทาง ทั้งการใช้ VPN เพื่อเข้าถึง TikTok การใช้แพลตฟอร์มทางเลือกอื่นๆ หรือการสร้างบัญชีใหม่บนแพลตฟอร์มที่ไม่ถูกแบน อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ควรคำนึงถึงข้อกฎหมายในประเทศของตนและความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นก่อนเลือกใช้วิธีการเหล่านี้

#TikTok #แบนTikTok #ความปลอดภัยไซเบอร์ #ByteDance #VPN #แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย #ความเป็นส่วนตัวข้อมูล

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • ประวัติการเข้าชมเว็บไซต์และโฆษณา

    ยินยอนให้มีการเก็บประวัติการเข้าชมเว็บไซต์

บันทึกการตั้งค่า