
ทำไมเจ้าของเว็บไซต์ต้องใส่ใจกับกฎหมาย PDPA? และต้องปรับตัวอย่างไรเมื่อมีการบังคับใช้
ในโลกยุคดิจิทัลที่ข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นสินทรัพย์สำคัญ การบังคับใช้กฎหมาย PDPA (Personal Data Protection Act) หรือพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทย ได้สร้างความตื่นตัวให้กับเจ้าของเว็บไซต์และผู้ประกอบการออนไลน์อย่างมาก กฎหมายนี้มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจออนไลน์ต้องมีการปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดต่างๆ บทความนี้จะพาทุกท่านเจาะลึกถึงสิ่งที่เจ้าของเว็บไซต์ต้องรู้และปฏิบัติเพื่อไม่ให้ละเมิดกฎหมาย PDPA

PDPA คืออะไร และทำไมถึงสำคัญสำหรับเจ้าของเว็บไซต์?
PDPA หรือ Personal Data Protection Act คือพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ออกมาเพื่อปกป้องการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยที่เจ้าของข้อมูลไม่ได้ยินยอม กฎหมายนี้ครอบคลุมทั้งข้อมูลในรูปแบบเอกสารและอิเล็กทรอนิกส์
สำหรับเจ้าของเว็บไซต์ กฎหมายนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเว็บไซต์ส่วนใหญ่มีการเก็บข้อมูลผู้ใช้งานในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการลงทะเบียนสมาชิก การกรอกแบบฟอร์มติดต่อ หรือแม้แต่การใช้คุกกี้เพื่อติดตามพฤติกรรมการใช้งาน หากละเลยการปฏิบัติตามกฎหมายนี้ อาจนำมาซึ่งบทลงโทษทั้งทางแพ่ง ทางอาญา และทางปกครอง
เราคงจำกรณีตัวอย่างของบริษัทโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ที่ถูกฟ้องร้องและตรวจสอบ หลังพบว่ามีการขายข้อมูลผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านบัญชีให้กับบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลทางการเมือง ซึ่งบริษัทดังกล่าวต้องจ่ายค่าปรับมหาศาลถึง 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 155,000 ล้านบาท) และยังต้องแต่งตั้งคณะกรรมการมาดูแลนโยบายความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานโดยเฉพาะ
อะไรบ้างที่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้กฎหมาย PDPA?
กฎหมาย PDPA ได้ให้คำนิยามของข้อมูลส่วนบุคคลไว้อย่างชัดเจน โดยแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป และข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป ประกอบด้วย:
- ชื่อ นามสกุล
- ที่อยู่
- เบอร์โทรศัพท์
- วันเกิด
- อาชีพและประวัติการศึกษา
- รูปถ่าย
- ลายนิ้วมือ
- เลขบัตรประจำตัวประชาชน บัตรเครดิต บัตรเอทีเอ็ม และบัญชีธนาคาร
ส่วนข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ซึ่งต้องได้รับการคุ้มครองเป็นพิเศษ ได้แก่:
- ข้อมูลสุขภาพ
- ข้อมูลการเงิน
- ข้อมูลพันธุกรรม
- ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อชาติ ศาสนา ความเชื่อ
- รสนิยมทางเพศ
- ประวัติอาชญากรรม
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านี้มีสิทธิ์ในการขอรับข้อมูล เข้าถึง แก้ไข โอนย้าย ระงับ หรือถอนความยินยอมในการใช้ข้อมูลได้ตลอดเวลา รวมถึงมีสิทธิ์ร้องเรียนเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของตนด้วย

เจ้าของเว็บไซต์ต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย PDPA?
1. เปิดแถบแจ้งเก็บ Cookie บนเว็บไซต์
การเปิดแถบแจ้งเตือนการใช้คุกกี้ (Cookie Consent) เป็นสิ่งแรกที่เจ้าของเว็บไซต์ควรทำ คุกกี้คือไฟล์เล็กๆ ที่เว็บไซต์สร้างขึ้นเพื่อบันทึกข้อมูลการใช้งานของผู้เข้าชม ซึ่งช่วยให้การใช้งานเว็บไซต์สะดวกและรวดเร็วขึ้น เช่น จดจำการล็อกอิน หรือข้อมูลที่เคยกรอก
แต่การใช้คุกกี้ก็เป็นการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน เว็บไซต์จึงต้องมีการขออนุญาตก่อน โดยอาจแสดงในรูปแบบป็อปอัปหรือแถบแจ้งเตือนด้านล่างของเว็บไซต์ ผู้ใช้งานต้องสามารถเลือกได้ว่าจะยินยอมหรือปฏิเสธการใช้คุกกี้นั้น การทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์อีกด้วย
2. แสดงนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy) ให้ชัดเจน
Privacy Policy หรือนโยบายความเป็นส่วนตัว เป็นเอกสารสำคัญที่ต้องมีบนเว็บไซต์ เพื่อแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบถึงรายละเอียดการเก็บและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งควรมีรายละเอียดดังนี้:
- เว็บไซต์มีการจัดเก็บข้อมูลอะไรบ้าง
- เว็บไซต์มีการจัดเก็บข้อมูลเมื่อไหร่
- เว็บไซต์เก็บข้อมูลไว้ที่ไหน และมีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างไร
- เว็บไซต์เก็บข้อมูลไว้นานแค่ไหน
- เจ้าของเว็บไซต์จะนำข้อมูลไปใช้ทำอะไร
- รายละเอียดการใช้คุกกี้บนเว็บไซต์
- การปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัว
- วิธีการติดต่อและขอลบข้อมูล
หน้า Privacy Policy มักจะแสดงเป็นหนึ่งเพจบนเว็บไซต์ หรืออาจเป็นป็อปอัปที่ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงได้จากการคลิกที่ลิงก์ในแถบแจ้งเตือนคุกกี้
3. ขอความยินยอมก่อนแสดงข้อมูลลูกค้าบนเว็บไซต์
ธุรกิจออนไลน์มักนิยมแสดงคำรีวิวหรือบทความแนะนำจากลูกค้าเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งอาจมีการใช้ชื่อ รูปภาพ หรือข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ ของลูกค้า ก่อนจะนำข้อมูลเหล่านี้มาแสดงบนเว็บไซต์ เจ้าของเว็บไซต์ต้องขออนุญาตจากลูกค้าก่อน โดยระบุให้ชัดเจนว่าจะนำข้อมูลไปใช้ที่ไหนบ้าง
บางคนอาจยินยอมให้แสดงบนเว็บไซต์ แต่ไม่ต้องการให้เผยแพร่บนโซเชียลมีเดีย การขอความยินยอมจึงต้องระบุขอบเขตการใช้งานให้ชัดเจน
4. ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต
ผู้ประกอบการออนไลน์ โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีก ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในการโพสต์รูปหรือวิดีโอที่อาจมีข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าปรากฏอยู่ เช่น การถ่ายรูปกล่องพัสดุที่มีชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ของลูกค้า
ควรหลีกเลี่ยงการเผยแพร่รูปกล่องพัสดุหรือเอกสารที่แสดงเลข Tracking แบบสาธารณะ หากจำเป็นต้องแสดง ให้ลบหรือปิดบังข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าก่อนเสมอ
5. แจ้งเตือนทันทีเมื่อเกิดการรั่วไหลของข้อมูล
หากเกิดเหตุการณ์ข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล เช่น เว็บไซต์ถูกแฮก หรือมีการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าของเว็บไซต์มีหน้าที่ต้องแจ้งเหตุการณ์ดังกล่าวให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทราบโดยเร็ว (ในกรณีที่ข้อมูลมีความเสี่ยงสูง)
นอกจากนี้ ยังต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบด้วย โดยระบุรายละเอียดเกี่ยวกับ:
- จำนวนและประเภทของข้อมูลที่รั่วไหล
- ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
- มาตรการที่ใช้ในการแก้ไขปัญหา

บทลงโทษสำหรับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA
การละเลยหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA อาจนำมาซึ่งบทลงโทษที่รุนแรง ดังนี้:
โทษทางปกครอง
บทลงโทษทางปกครองสำหรับการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA มีอัตราค่าปรับสูงสุดไม่เกิน 5,000,000 บาท ในบางกรณี คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญอาจพิจารณาให้มีการตักเตือนหรือสั่งให้แก้ไขก่อนดำเนินการลงโทษ
โทษทางอาญา
ในกรณีที่มีการกระทำความผิดร้ายแรง อาจมีโทษทางอาญา ซึ่งผู้กระทำความผิดอาจต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โทษทางแพ่ง
นอกจากนี้ ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งได้ ซึ่งศาลอาจสั่งให้จ่ายค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติมได้อีกด้วย
ทำไมการปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA จึงสำคัญสำหรับธุรกิจออนไลน์?
การปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA ไม่เพียงแต่ช่วยให้ธุรกิจหลีกเลี่ยงบทลงโทษทางกฎหมายเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์อีกหลายประการ:
สร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ
การมีนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ชัดเจนและการให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ ลูกค้าจะรู้สึกปลอดภัยและมั่นใจในการให้ข้อมูลส่วนตัวกับเว็บไซต์ของคุณ
ลดความเสี่ยงในการละเมิดข้อมูล
การปฏิบัติตามมาตรฐานของกฎหมาย PDPA ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งอาจนำมาซึ่งความเสียหายทั้งทางการเงินและชื่อเสียงของธุรกิจ
เป็นการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล
กฎหมาย PDPA มีรูปแบบคล้ายคลึงกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในต่างประเทศ เช่น GDPR ของสหภาพยุโรป การปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA จึงเป็นการยกระดับธุรกิจให้ได้มาตรฐานสากล

วิธีปรับปรุงเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับกฎหมาย PDPA
หากคุณเป็นเจ้าของเว็บไซต์หรือธุรกิจออนไลน์ ต่อไปนี้คือวิธีการปรับปรุงเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับกฎหมาย PDPA:
1. สำรวจและจัดหมวดหมู่ข้อมูลที่เก็บรวบรวม
เริ่มต้นด้วยการสำรวจว่าเว็บไซต์ของคุณมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้าง และแบ่งประเภทของข้อมูลเหล่านั้น เพื่อกำหนดมาตรการในการคุ้มครองที่เหมาะสม
2. สร้างนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ครอบคลุมและเข้าใจง่าย โดยระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิของเจ้าของข้อมูล
3. ติดตั้งระบบขอความยินยอมในการใช้คุกกี้
เพิ่มระบบแจ้งเตือนและขอความยินยอมในการใช้คุกกี้บนเว็บไซต์ โดยให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ว่าจะยินยอมให้เก็บข้อมูลผ่านคุกกี้หรือไม่
4. ปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัย
เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับระบบรักษาความปลอดภัยของเว็บไซต์ เช่น การเข้ารหัสข้อมูล การใช้ SSL certificate การกำหนดนโยบายรหัสผ่านที่รัดกุม และการอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอ
5. จัดทำแผนรับมือกรณีข้อมูลรั่วไหล
เตรียมพร้อมแผนรับมือกรณีเกิดเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหล โดยกำหนดขั้นตอนและผู้รับผิดชอบในการแจ้งเหตุให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและเจ้าของข้อมูลทราบ
สรุป
กฎหมาย PDPA เป็นสิ่งที่เจ้าของเว็บไซต์และธุรกิจออนไลน์ไม่ควรมองข้าม การปฏิบัติตามกฎหมายนี้ไม่เพียงช่วยหลีกเลี่ยงบทลงโทษทางกฎหมายที่รุนแรง แต่ยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจและเพิ่มความไว้วางใจจากลูกค้าอีกด้วย
เริ่มต้นด้วยการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลและข้อกำหนดของกฎหมาย PDPA จากนั้นดำเนินการปรับปรุงเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัว การติดตั้งระบบขอความยินยอมในการใช้คุกกี้ หรือการปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัย
ในยุคที่ข้อมูลส่วนบุคคลมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ การให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่เพียงเป็นหน้าที่ตามกฎหมาย แต่ยังเป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบและใส่ใจในสิทธิของลูกค้าอย่างแท้จริง
#PDPA #กฎหมายคุ้มครองข้อมูล #ความเป็นส่วนตัว #เว็บไซต์ #ธุรกิจออนไลน์ #ความปลอดภัยข้อมูล