
สีม่วง Ultra Violet สร้างแรงบันดาลใจอย่างไร ทำไมถึงถูกเลือกเป็นสีแห่งปี 2018?
ในแต่ละปี บริษัท Pantone จะทำการเลือกสีที่สะท้อนอารมณ์และวัฒนธรรมของโลกในช่วงเวลานั้น เพื่อประกาศให้เป็นสีแห่งปี (Color of the Year) ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากต่อวงการออกแบบ แฟชั่น และการตลาดทั่วโลก สำหรับปี 2018 Pantone ได้เลือกสี Ultra Violet หรือสีม่วงเข้มแกมน้ำเงิน (PANTONE 18-3838) เป็นสีแห่งปี โดยสีนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่เฉดสีสวยงามเท่านั้น แต่ยังแฝงไปด้วยความหมายลึกซึ้งและแรงบันดาลใจมากมาย ที่สะท้อนถึงสภาพสังคมและวัฒนธรรมในช่วงเวลานั้น
Pantone คืออะไร และทำไมสีประจำปีจึงมีความสำคัญต่อวงการออกแบบ?
Pantone เป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านสีระดับโลก ที่ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่ธุรกิจต่างๆ เกี่ยวกับการใช้สีสำหรับอัตลักษณ์แบรนด์และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังมีการพยากรณ์เทรนด์สี (color forecasting) ซึ่งเป็นการทำนายว่าสีใดจะได้รับความนิยมในอนาคตอันใกล้ โดยในแต่ละปี Pantone จะเลือกสีแห่งปีที่สะท้อนถึงสภาพสังคมและวัฒนธรรมในช่วงเวลานั้น
การประกาศสีแห่งปีของ Pantone ไม่ใช่เพียงแค่การเลือกสีที่สวยงามเท่านั้น แต่เป็นการวิเคราะห์อย่างลึกซึ้งถึงอารมณ์ความรู้สึกร่วมของผู้คนทั่วโลก Laurie Pressman รองประธานของ Pantone Color Institute อธิบายว่า “สีที่เราเลือกเป็นสีแห่งปีนั้นมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ เป็นการจับภาพสิ่งที่เรากำลังเห็นเกิดขึ้นในวัฒนธรรมโลกของเรา ณ ช่วงเวลาหนึ่ง เป็นสีที่เราเห็นว่ากำลังแพร่กระจายในทุกพื้นที่ของการออกแบบ เป็นการแสดงออกถึงอารมณ์และทัศนคติ เป็นสีที่สะท้อนสิ่งที่ผู้คนกำลังมองหา สิ่งที่พวกเขารู้สึกว่าต้องการซึ่งสีสามารถตอบสนองได้”

ทำไมสี Ultra Violet จึงได้รับเลือกให้เป็นสีแห่งปี 2018?
การเลือกสี Ultra Violet เป็นสีแห่งปี 2018 ถือเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจสำหรับหลายคน เนื่องจากในช่วงหลายปีก่อนหน้านั้น Pantone มักเลือกสีที่ค่อนข้างปลอดภัยและเป็นที่นิยม เช่น Greenery (2017), Rose Quartz และ Serenity (2016) หรือ Marsala (2015) ซึ่งล้วนมีลักษณะคล้ายสีพาสเทล
Leatrice Eiseman ผู้อำนวยการของ Pantone Color Institute กล่าวว่า “เรากำลังอยู่ในยุคที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ ซึ่งแรงบันดาลใจสร้างสรรค์แบบนี้เป็นสิ่งที่มีอยู่ในสี PANTONE 18-3838 Ultra Violet สีม่วงพื้นฐานน้ำเงินที่ยกระดับความตระหนักรู้และศักยภาพของเราไปสู่ระดับที่สูงขึ้น ตั้งแต่การสำรวจเทคโนโลยีใหม่ๆ และจักรวาลอันกว้างใหญ่ ไปจนถึงการแสดงออกทางศิลปะและการสะท้อนทางจิตวิญญาณ Ultra Violet ที่เต็มไปด้วยสัญชาตญาณเป็นแสงนำทางไปสู่สิ่งที่กำลังจะมาถึง”
นอกจากนี้ Ultra Violet ยังมีความเชื่อมโยงกับวงการดนตรีและศิลปิน โดยเฉพาะ Prince, David Bowie และ Jimi Hendrix ที่มักใช้สีม่วงเป็นสัญลักษณ์ของความแหวกแนว ความคิดสร้างสรรค์ และการไม่ยึดติดกับบรรทัดฐานเดิมๆ ของสังคม จึงเป็นสีที่สื่อถึงการต่อต้านวัฒนธรรมกระแสหลัก ความไม่เป็นไปตามแบบแผน และความเป็นอัจฉริยะทางศิลปะ
สี Ultra Violet สื่อถึงความหมายและสัญลักษณ์อะไรบ้าง?
สี Ultra Violet มีความหมายที่ลึกซึ้งและหลากหลายมิติ เป็นสีที่มีความซับซ้อนทางอารมณ์ สื่อถึงการทดลอง การไม่เป็นไปตามบรรทัดฐาน และความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่มีขีดจำกัด สีนี้เป็นการผสมผสานระหว่างสีน้ำเงินและสีแดง ซึ่งเป็นสีที่ดูเหมือนจะตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง แต่กลับสามารถรวมกันเพื่อสร้างสิ่งใหม่ที่น่าทึ่ง
Ultra Violet ยังสื่อถึงความลึกลับของจักรวาล ความน่าสนใจของสิ่งที่รออยู่เบื้องหน้า และการค้นพบที่เกินกว่าจุดที่เราอยู่ในปัจจุบัน ท้องฟ้ายามค่ำคืนอันกว้างใหญ่ไร้ขอบเขตเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไปได้ และยังคงสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความปรารถนาที่จะแสวงหาโลกที่อยู่นอกเหนือจากโลกของเราเอง
นอกจากนี้ สีม่วงยังมีความเชื่อมโยงกับคุณสมบัติทางจิตวิญญาณ ความลึกลับ และการเยียวยา ในวงการอาหาร ผลไม้และผักสีม่วงกำลังเป็นที่นิยมเนื่องจากไม่เพียงแต่อุดมไปด้วยสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระเท่านั้น แต่ยังนำความมีชีวิตชีวาและความซับซ้อนมาสู่โต๊ะอาหารอีกด้วย
สี Ultra Violet ส่งผลต่อวงการออกแบบและแฟชั่นอย่างไร?
สี Ultra Violet มีอิทธิพลอย่างมากต่อวงการออกแบบและแฟชั่น โดยเฉพาะในปี 2018 การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น Ultra Violet มอบความซับซ้อนและความละเอียดอ่อนที่ตอบสนองต่อความต้องการของเราในเรื่องความเป็นต้นฉบับในทุกสิ่งที่เราสัมผัส ในการออกแบบกราฟิก Ultra Violet สะท้อนถึงสื่อที่มีพลวัตผ่านความรู้สึกหลายมิติ
แบรนด์ที่มองการณ์ไกลในโลกของสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าหรูหรา และความงาม รวมถึงบุคคลและศิลปินที่ต้องการโดดเด่น ได้นำเฉดสีของ Ultra Violet มาใช้ในบรรจุภัณฑ์และการออกแบบกราฟิกมากขึ้นเรื่อยๆ
ในวงการแฟชั่น Ultra Violet ปรากฏบนรันเวย์และในคอลเลกชันของดีไซเนอร์ชั้นนำ รวมถึงในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ความงาม สีนี้มีความเป็นสากลและสามารถใช้ได้กับทุกเฉดสีผิว ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับแบรนด์ต่างๆ

จะนำสี Ultra Violet ไปประยุกต์ใช้ในการออกแบบเว็บไซต์ได้อย่างไร?
การนำสี Ultra Violet มาใช้ในการออกแบบเว็บไซต์เป็นความท้าทายสำหรับนักออกแบบเว็บไซต์ เนื่องจากเป็นสีที่มีความโดดเด่นและมีพลังมาก อย่างไรก็ตาม มีหลายวิธีที่สามารถนำสีนี้มาประยุกต์ใช้ได้อย่างสร้างสรรค์:
- ใช้เป็นสีเน้นหรือสีเสริม (Accent Color): แทนที่จะใช้ Ultra Violet เป็นสีหลักของเว็บไซต์ ลองใช้เป็นสีเน้นสำหรับปุ่ม, ไอคอน หรือองค์ประกอบเล็กๆ ที่ต้องการให้โดดเด่น
- ผสมผสานกับ White Space: การใช้ White Space หรือพื้นที่ว่างร่วมกับองค์ประกอบสี Ultra Violet จะช่วยให้เว็บไซต์ดูสบายตาและเป็นระเบียบมากขึ้น White Space ไม่จำเป็นต้องเป็นพื้นที่สีขาวเสมอไป แต่อาจเป็นรูปภาพหรือสีอื่นๆ ที่สื่อถึงแบรนด์หรือสินค้าได้
- ใช้กับตัวอักษรแบบ Bold: การใช้ Ultra Violet กับตัวอักษรหนา (Bold) จะช่วยสร้างความโดดเด่นและทรงพลังให้กับข้อความ โดยเฉพาะเมื่อใช้บนพื้นหลังที่มีสีเรียบหรือเป็นภาพจริง
- ผสมผสานกับภาพถ่าย: การใช้ภาพถ่ายที่มีองค์ประกอบของสี Ultra Violet หรือการซ้อนทับสี Ultra Violet ลงบนภาพถ่ายเพื่อสร้างมู้ดและโทนที่เป็นเอกลักษณ์
- ใช้ในการออกแบบโลโก้หรืออัตลักษณ์แบรนด์: สำหรับแบรนด์ที่ต้องการสื่อถึงความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และการมองไปข้างหน้า Ultra Violet เป็นสีที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการนำมาใช้ในโลโก้หรืออัตลักษณ์ของแบรนด์

แนวโน้มการใช้สีในการออกแบบเว็บไซต์ในปัจจุบันเป็นอย่างไร?
แม้ว่า Ultra Violet จะเป็นสีแห่งปี 2018 แต่อิทธิพลของมันยังคงส่งผลต่อแนวโน้มการออกแบบในปัจจุบัน การใช้สีที่มีความโดดเด่นและสื่อความหมายยังคงเป็นที่นิยมในวงการออกแบบเว็บไซต์ โดยเฉพาะการใช้สีเพื่อสร้างอารมณ์และความรู้สึกที่เฉพาะเจาะจง
นอกจากนี้ เทรนด์การออกแบบเว็บไซต์ในปัจจุบันยังให้ความสำคัญกับ:
- การใช้ตัวอักษรแบบ Bold: ตัวอักษรหนาและมีสีสันชัดเจนยังคงเป็นที่นิยมในการออกแบบเว็บไซต์ เพื่อสร้างความโดดเด่นและดึงดูดความสนใจ
- การใช้ภาพถ่ายจริง: ภาพถ่ายที่เป็นธรรมชาติและสื่อความหมายชัดเจนยังคงเป็นองค์ประกอบสำคัญในการออกแบบเว็บไซต์ โดยเฉพาะเมื่อนำมาใช้ร่วมกับข้อความที่ทรงพลัง
- White Space: การใช้พื้นที่ว่างอย่างมีประสิทธิภาพยังคงเป็นแนวทางการออกแบบที่ได้รับความนิยม เพื่อสร้างความสบายตาและเน้นความสำคัญขององค์ประกอบต่างๆ
- การผสมผสานสีที่ดูขัดแย้งกัน: เช่นเดียวกับ Ultra Violet ที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างสีน้ำเงินและสีแดง การใช้สีที่ดูเหมือนจะขัดแย้งกันแต่สามารถสร้างความโดดเด่นและน่าสนใจเมื่อนำมาใช้ร่วมกันอย่างลงตัว
- การใช้สีเพื่อสะท้อนคุณค่าของแบรนด์: การเลือกสีไม่ใช่เพียงเพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นการสื่อสารคุณค่าและตัวตนของแบรนด์อย่างลึกซึ้ง
สรุป
สี Ultra Violet ไม่ได้เป็นเพียงแค่สีที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลง ความคิดสร้างสรรค์ และการมองไปข้างหน้า การที่ Pantone เลือกสีนี้เป็นสีแห่งปี 2018 สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการในสังคมที่กำลังแสวงหาแรงบันดาลใจ ความหวัง และมุมมองใหม่ๆ ในการมองโลก
แม้ว่าจะผ่านมาหลายปีแล้ว แต่อิทธิพลของ Ultra Violet ยังคงส่งผลต่อวงการออกแบบและแฟชั่น โดยเฉพาะในแง่ของการกล้าทดลองและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ สำหรับนักออกแบบเว็บไซต์ การเข้าใจถึงพลังและความหมายของสีจะช่วยให้สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังสื่อสารความหมายและสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้อย่างลึกซึ้ง
#Pantone #UltraViolet #ColorOfTheYear #DesignTrends #WebDesign #CreativeInspiration #ColorPsychology #DigitalDesign #สีม่วง #การออกแบบ